องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในอัตราที่เร็วกว่าการกระจายวัคซีนทั่วโลก เนื่องจากไวรัสได้กลายพันธุ์จนทำให้โรคดังกล่าวแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น เช่น สายพันธุ์อัลฟาและเดลตา
ทั้งนี้ สายพันธุ์ B.1.1.7 พบครั้งแรกในอังกฤษ ใช้ชื่อว่า อัลฟา ขณะที่สายพันธุ์ B1.617.2 พบครั้งแรกในอินเดีย ใช้ชื่อว่า เดลตา
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดที่รวดเร็วเช่นนี้ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการปกป้องมีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งก็คือผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
แม้ยอดผู้ป่วยรายใหม่ลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 7 สัปดาห์แล้ว แต่ยอดผู้เสียชีวิตไม่ได้ปรับตัวลดลงในอัตราเดียวกัน โดยโรคดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 3.8 ล้านรายทั่วโลก
ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่า “การที่ยอดผู้ป่วยรายใหม่ลดลงนั้นได้บดบังยอดผู้ป่วยและยอดผู้เสียชีวิตที่ยังคงน่าเป็นห่วงในหลายประเทศ” เช่น ประเทศในแถบแอฟริกาที่ยังคงมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะประเทศแถบนี้พบผู้ป่วยไม่มากเท่าทวีปอื่นๆ เท่ากับว่าประเทศแถบแอฟริกามีอัตราการเสียชีวิตมากกว่า ขณะที่ยังคงเข้าถึงวัคซีนได้น้อยกว่าทวีปอื่นด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, WHO, ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก, อังกฤษ, อินเดีย, แอฟริกา, โควิด-19, โควิดกลายพันธุ์, โควิดสายพันธุ์อัลฟา, โควิดสายพันธุ์เดลตา