นายวิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซนต์เมด (SMD) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 มิ.ย.64 ชื่อย่อ SMD และหลังปิดขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 54 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 25.23% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นละ 7.20 บาท พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัท (P/E) ที่ประมาณ 17.52 เท่า ซึ่งภายหลังจากเปิดจองซื้อหุ้น ในวันที่ 9-11 มิ.ย.64 หุ้น SMD ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมียอดจองล้นหลาม สะท้อนพื้นฐานธุรกิจและศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนขยายการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เสริมความแข็งแกร่งให้กับโมเดลธุรกิจเดิมโดยต่อยอดขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงขยายธุรกิจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. รูปแบบการจัดหาบริการให้เช่าครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลเฉพาะทาง โรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลศูนย์ โดยมีระยะเวลาให้เช่า 3-5 ปี เพื่อลดการจัดสรรปันส่วนงบประมาณของโรงพยาบาลรัฐที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และนำเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในส่วนอื่น ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการดูแลผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาพยาบาลมากขึ้น
และ 2.การดำเนินโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับ เนื่องจากคนไทยได้ตระหนักถึงอันตรายจากการนอนกรน และหยุดหายใจในขณะนอนหลับมากขึ้น โดย SMD ถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ของไทย ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ (Respiration) ซึ่งได้ลงทุนในศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 4 เตียงตรวจ ที่ให้บริการไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ในลักษณะสัญญาความร่วมมือระหว่าง SMD กับโรงพยาบาล หรือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) ที่ SMD เป็นผู้ลงทุนและให้บริการ ทั้งลงทุนปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การจัดหาเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความชำนาญในการตรวจการนอนหลับ (sleep technician) โดยรูปแบบสัญญาจะมีลักษณะเป็นการปันส่วนรายได้จากการให้บริการ และจากการขายเครื่องมือให้แก่โรงพยาบาล
บริษัทยังมีแผนจะร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อขยายการลงทุนโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับเพิ่มเติมอีก 8 เตรียงตรวจต่อโครงการต่อปีในช่วงปี 2564-2566 รองรับจำนวนผู้ที่มีสิทธิการรักษาพยาบาล เช่น ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ถือเป็นการสร้างการเติบโตแบบสมดุลและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี มีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15%
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SMD มีศักยภาพเติบโตสูงจากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันต่างๆ จากการมีผลิตภัณฑ์ที่ดี (P-Product) ที่วงการแพทย์ให้การยอมรับ การมีราคาที่เหมาะสมและจับต้องได้ (P-Price) และมีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ (P-People) ในการอธิบายแนะนำสินค้า และการบริการหลังการ รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า
นอกจากนี้ SMD ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่มีความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นจากความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต รับจังหวะกับการเติบโตตามอุตสาหกรรมโรงพยาบาล ที่ไม่ได้รัรบผลกระทบจากปัจจัยทางเด้านเศรษฐกิจ รวมถึงสังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูแลประชาชนจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมากในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 64)
Tags: IPO, mai, SMD, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ, วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์, หุ้นไทย, อุปกรณ์ทางการแพทย์, เซนต์เมด, เอกจักร บัวหภักดี, แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์