นักวิเคราะห์ฯเล็งตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งขึ้น รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันขึ้น-คาดหวังเฟดยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป เห็นได้จาก Bond yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯลงมาต่ำกว่า 1.5% เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง จากการมองเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งแค่ชั่วคราว ด้านตลาดภูมิภาคหลายแห่งปิดทำการ พร้อมให้แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,640-1,650 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้น รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และยังคาดวังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สัปดาห์นี้คงจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปี ของสหรัฐลงมาต่ำกว่า 1.5% ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง จากการมองเงินเฟ้อสหรัฐฯคงปรับตัวขึ้นแค่ชั่วคราว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เงียบ ๆ โดยหลายตลาดปิดทำการ ทั้งตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน, ตลาดหุ้นฮ่องกง ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดเทรดมาก็แกว่งในแดนบวก สัปดาห์นี้ให้ติดตามการประชุมเฟด และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงติดตามตลาดหลักทรัพย์จะปรับหุ้นเข้า-ออกของ SET50 และ SET100 อีกทั้งให้ติดตาม FTSE Re-balance หุ้นไทยโดยจะปรับพอร์ตใช้ราคาปิดของวันที่ 18 มิ.ย. และจะมีผลในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,650 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,479.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.36 จุด (+0.039%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,247.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด (+0.19%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,069.42 จุด เพิ่มขึ้น 49.09 จุด (+0.35%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 204.38 จุด ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลขนมจ้าง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 มิ.ย.) 1,636.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.29 จุด (+0.69%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,194.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 มิ.ย.) ปิด 70.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.08 ตลาดจับตาประชุมเฟดสัปดาห์นี้ มองกรอบวันนี้ 31.05-31.15
- รฟม.ชงบอร์ดปรับแผนเงินกู้รถไฟฟ้าสีม่วงใต้ “เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ” เร็วขึ้น 6 เดือน หลังจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง มั่นใจไม่มีปัญหาส่งมอบ เปิดประมูลนานาชาติ 6 สัญญา ราคากลาง 7.87 หมื่นล้านบาท เปิด TOR ฟังความเห็นถึง 15 มิ.ย. ขายซอง 5 ก.ค. – 7 ต.ค. ยื่นประมูล ต.ค. 64 คาดได้ตัว ธ.ค.64 เริ่มงาน ม.ค.65
- กรมเจรจาการค้าฯ ชำแหละผลประโยชน์ไทยใน RCEP เจาะลึกตลาดญี่ปุ่น เผยมีสินค้า 207 รายการที่จะมีการลดภาษีเหลือ 0% หลังความตกลงบังคับใช้ คาดส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร
- รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอมาตรการเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้สามารถฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น ส่วนใหญ่เป็นมาตรการเดิมจากปี 63 ที่ขยายเวลาต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เห็นชอบให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจโรงงานเพื่อการขออนุญาต มอก. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
- กระทรวงการคลังมองผลกระทบจากโควิด-19 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้เร่งตั้งสำรองรองรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่า 20,000-30,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก และยังมีแผนตั้งสำรองเพิ่มต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งฐานะการเงินรับมือกับลูกหนี้ที่ผ่อนไม่ไหวและอาจกลายเป็นหนี้เสียในอนาคตได้ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีแผนตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 39,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ธนาคารมีเงินสำรองสะสมในสิ้นปีเพิ่มเป็น 410,000 ล้านบาท
หุ้นเด่นวันนี้
- SAMART-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART))เทรดวันนี้วันแรกจำนวน 167,711,498 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 10.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขาย (18 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 พ.ค. 2567
- MTC (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 74 บาท ราคาหุ้นลดลงสะท้อนภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมไปแล้ว แนะเก็งกำไร Theme เปิดเทอมหนุนความต้องการสินเชื่อเพิ่ม และคาดเฟดคงดอกเบี้ยสะท้อนดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำเป็นบวกกับกลุ่มไฟแนนซ์
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 80 บาท เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองที่น่าสนใจแม้แนวโน้มกำไร Q2/64 จะชะลอตัวจากโควิด-19 ระลอก 3 แต่คาดจะเริ่มทยอยฟื้นตัวใน Q3/21 เป็นต้นไป รวมถึงอยู่ระหว่าง Refinance เงินกู้ระยะสั้นจากการซื้อโลตัสทำให้ดอกเบี้ยลดลง ล่าสุดเตรียมเปิดสาขา 7-11 ที่กัมพูชาแห่งแรกในเดือน ก.ค. เป็นจุดเริ่มต้นการเติบโตครั้งใหม่และเปิด Upside ส่วนการต่อสัญญากับ OR อีก 10 ปีรองรับการเติบโตระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 64)
Tags: Bond yield, SET, ตลาดหุ้นไทย, บล.ทิสโก้, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล