กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถยึดบิตคอยน์มูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจ่ายเป็นค่าไถ่ให้กับกลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ได้เป็นผลสำเร็จ จากเงินค่าไถ่ทั้งหมดราว 4.4 ล้านดอลลาร์
“การติดตามเส้นทางของเงินค่าไถ่แม้จะเป็นขั้นตอนพื้นฐาน แต่ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง” ลิซา โอ. โมนาโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมแถลงวานนี้
“การเรียกค่าไถ่โดยใช้แรนซัมแวร์เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่กระตุ้นกลไกการรีดไถบนโลกดิจิทัล การประกาศในวันนี้จึงมีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า สหรัฐจะระดมเครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อให้องค์กรอาชญากรรมได้รู้ว่า การโจมตีเหล่านี้เป็นการกระทำที่ได้ไม่คุ้มเสีย” รมช.กระทรวงยุติธรรมกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รมช.กระทรวงยุติธรรมยังย้ำถึงความสำคัญของการแจ้งเหตุให้ทราบเหตุตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมกับขอบคุณโคโลเนียล ไปป์ไลน์ที่แจ้งเรื่องให้สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ทราบโดยเร็ว หลังจากที่รู้ว่าบริษัทได้ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มดาร์กไซด์ ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้
ทางด้านนายพอล แอบเบต รองผู้อำนวยการ FBI ระบุว่า “เราจะเดินหน้าใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่เรามี และผนึกกำลังความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศเพื่อหยุดยั้งการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ และปกป้องพันธมิตรในภาคเอกชนของเรา รวมถึงประชาชนชาวอเมริกัน”
อนึ่ง เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ถูกโจมตีทางไซเบอร์โดยกลุ่มดาร์กไซด์ ซึ่งจะปฏิบัติการเลียนแบบตัวละครโรบินฮู้ดด้วยการขโมยเงินจากบริษัทต่างๆ และแบ่งให้กับองค์กรการกุศล โดยกลุ่มดาร์กไซด์เป็นหนึ่งในอาชญากรที่เชี่ยวชาญในการใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่หรือแรนซัมแวร์
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณ 2.5 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 45% ของปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล, น้ำมันเบนซิน และเชื้อเพลิงอากาศยานในฝั่งตะวันออกของสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 64)
Tags: FBI, ดาร์กไซด์, บิตคอยน์, บิทคอยน์, พอล แอบเบต, สหรัฐ, สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ, เงินค่าไถ่, แรนซัมแวร์, แฮกเกอร์, โคโลเนียล ไปป์ไลน์, โจมตีทางไซเบอร์