นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.วัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 คาดว่าออกมาดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากปีที่แล้วมีการปิดประเทศจากการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 คาดว่ารายได้ลดลงเล็กน้อย ในส่วนของกำไรต้องพิจารณาต้นทุนในส่วนค่าขนส่งและเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วน 40% มีการปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทได้วางแผนในการควบคุมต้นทุนแล้ว และมองว่าค่าขนส่งยังสามารถยืดหยุ่นได้อยู่
บริษัทยังคงเป้ารายได้รวมในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% โดยมาจากการเติบโตของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง รายได้หลักของบริษัทจากการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับค่ายรถนต์ คาดว่าปีนี้จะสามารถทำรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อยอดจองของบริษัทกว่า 20% เนื่องจากยังไม่สามารถเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับคนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น บริษัทจึงเฝ้าติดตามสถานการณ์ รวมถึงให้พนักงานในองค์กรสลับกันไปทำงาน เพื่อให้งานยังสามารถดำเนินต่อได้
ขณะเดียวกันบริษัทได้ทำการพัฒนาสินค้าใหม่ด้วยตนเอง ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และแฟชั่น โดยยังอยู่ในช่วงทดสอบตลาด และหากช่วงปลายปี 64 ไม่มีออเดอร์จาก OEM ของค่ายรถยนต์ บริษัทก็จะหันไปโฟกัสที่สินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์และแฟชั่นที่ได้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว
2.กลุ่มพลังงาน บริษัทตั้งเป้าปี 64 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) 30 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 13 เมกกะวัตต์แล้ว ทั้งนี้หากบริษัทสามารถทำตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ อาจมองโอกาสในการแยกธุรกิจนี้ออกไป ส่วนโรงไฟฟ้าที่จังหวัดนครสวรรค์ได้สัญญาในการบริหารจัดการขยะแล้ว และอยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นประมูลโรงไฟฟ้าขยะในชุมชนมากกว่า 10 โครงการ โดยทั้งหมดนี้บริษัทตั้งเป้าให้ได้อย่างน้อย 2 โครงการขึ้นไป
3.บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SKC) ที่ CWT ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 50% คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในปีนี้ราว 200 ล้านบาท จากออเดอร์เรือ 2 ลำ และออเดอร์รถบัสดีเซลที่มีเข้ามากว่า 200 คัน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถรับรู้ออเดอร์รถบัสดีเซลในปีนี้ทั้งหมด 100 คัน โดยรถบัสดีเซลจะเป็นตัวทำรายได้หลักของปีนี้ ส่วนรถบัส EV อยู่ระหว่างการทำต้นแบบ และส่งมอบเพื่อทำการทดสอบระบบ
สำหรับออเดอร์ผลิตเรือ EV ให้กับบริษัทบ้านปูเน็กซ์มีทั้งหมด 2 ลำ ส่งมอบแล้ว 1 ลำ ส่วนอีกลำรอส่งมอบภายในปีนี้ ทั้งนี้ออเดอร์ที่เข้ามาจะสอดคล้องกับการท่องเที่ยว จึงต้องรอให้มีปริมาณผู้โดยสารเข้ามามากกว่านี้ อย่างไรก็ตามหากเทรนด์ EV เข้ามามากขึ้น บริษัทได้มีการเตรียมพร้อมพูดคุยกับทางพาร์ทเนอร์ในรายที่มีแบตเตอรี่อยู่แล้วประมาณ 3 รายใหญ่ในไทย และอีกหลายๆ รายจากต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: CWT, SKC, กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง, กลุ่มพลังงาน, ผลการดำเนินงาน, วัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป, วีระพล ไชยธีรัตต์, สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น, หุ้นไทย