รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์วันนี้ มีวาระการพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะเสนอมาตรการลดค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิดของกระทรวงการคลัง 4 มาตรการ วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น โดยมีผู้เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการกว่า 51 ล้านคน ได้แก่
1.โครงการเติมเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.65 ล้านคน เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท
2.โครงการเติมเงินให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่เป็นผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งเคยเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมทั้งกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุด้วย 2.5 ล้านคน เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท
3.โครงการคนละครึ่ง ระยะ 3 (เฟส 3) เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยรัฐช่วยจ่ายวันละ 150 บาท ผู้ได้สิทธิจ่ายเอง 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการรวมเป็นเงิน 3,000 บาท โดยจะแบ่งเป็นช่วงแรก ไตรมาส 3 ของปีนี้ ทยอยจ่าย 1,500 บาท และไตรมาส 4 อีก 1,500 บาท ครอบคลุมประชาชน 31 ล้านคน
4.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยจะเปิดลงทะเบียนผ่าน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ในการรับสิทธิใช้คูปองอิเล็กทรอนิกส์ (อีเวาเชอร์) ไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน กลุ่มเป้าหมาย 4 ล้านคน ใช้งบประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท
ในส่วนวาระพิจารณาการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในวันนี้ไม่มีวาระการพิจารณา เนื่องจากหากจะเข้าครม.จะต้องเป็นวาระหลักไม่ใช่วาระจร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: คนละครึ่ง, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, ประชุมครม., ยิ่งใช้ยิ่งได้, สภาพัฒน์, สศช., เยียวยาโควิด