นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า บริษัทจับมือกับธนาคารกสิกรไทย จัดทำโครงการแซนด์บ็อกซ์ นำฐานข้อมูลการทำธุรกิจของคู่ค้าและซัพพลายเออร์เบื้องต้นกว่า 4,000 รายของ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร ผ่าน Digital Factoring Platform และได้อนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกให้กับ SME จำนวน 1,000 ราย ซึ่งกว่า 70% ของซัพพลายเออร์ยังไม่เคยเข้าถึงซอฟท์โลนมาก่อน โดยแพลตฟอร์มนี้จะทำให้ธนาคารสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น บนต้นทุนและความเสี่ยงที่ต่ำ
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังมีแผนต่อยอดโมเดลนี้ไปยังซัพพลายเออร์รายอื่นๆ ในเครือ CRC รวมถึงขยายความช่วยเหลือไปยังธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นแต้มต่อให้กับ SME ในการทำธุรกิจต่อไป
“การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบมหาศาลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เซ็นทรัล รีเทล จึงพร้อมให้การสนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือ SME ให้สำเร็จ และเกิดขึ้นได้จริงโดยเร็ว”
นายญนน์ กล่าว
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ในขณะนี้ผู้ประกอบการทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 เป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งธนาคารกสิกรไทยก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประคับประคองให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้
ดังนั้น CRC และ KBANK ได้ร่วมมือกันสำรวจปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการที่เป็นคู่ค้าของ CRC เพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือร่วมกัน โดยกลุ่มคู่ค้าหลักของ CRC คือ กลุ่มซัพพลายเออร์ SME ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจากวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยจะช่วยเหลือเพื่อให้มีเงินทุนเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจเร็วที่สุด
KBANK และ CRC จึงร่วมกันทำโครงการสินเชื่อเพื่อคู่ค้า CRC อัดฉีดเงินกู้ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับคู่ค้าของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งคู่ค้าที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ของธนาคาร โดยปัจจุบันมีคู่ค้าที่เป็นลูกค้าเดิมของธนาคาร จำนวน 3,500 ราย มีวงเงินสินเชื่ออยู่ 86,000 ล้านบาท ซึ่งการช่วยเหลือมี 2 รูปแบบดังนี้
- สินเชื่อฟื้นฟู วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร สามารถกู้ได้สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีกับธนาคาร และสำหรับลูกค้าใหม่ขอกู้ได้สูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย นานสูงสุด 24 เดือน (ไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก) อัตราดอกเบี้ย 2% ใน 2 ปีแรก โดยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ไม่เกิน 3.8% ต่อปี และฟรีค่าธรรมเนียมการจัดการให้กู้
- สินเชื่อไม่มีหลักประกัน สำหรับลูกค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู หรือ มีสินเชื่อกับสถาบันการเงินอื่น ขอกู้ได้สูงสุด 5 ล้านบาท โดยบสย.ค้ำประกันเต็มวงเงิน ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย นานสูงสุด 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย MRR+3% และฟรีค่าธรรมเนียม บสย. นาน 2 ปี
ความร่วมมือของ CRC และ KBANK ทำให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการคืบหน้าอย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ธนาคารได้เริ่มติดต่อคู่ค้าของเซ็นทรัล รีเทลแล้ว ซึ่งในเฟสแรกได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว และลูกค้าสามารถเบิกใช้วงเงินได้ในสิ้นเดือน พ.ค.64
“จากการพูดคุยกับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายลดลง การชะลอคำสั่งซื้อ หรือจำเป็นต้องขยายเทอมการชำระค่าสินค้าให้ลูกหนี้ ทำให้ธุรกิจประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และมองว่ามาตรการนี้จะช่วยตอบโจทย์และแก้ปัญหาที่ธุรกิจกำลังประสบอยู่ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที รู้สึกประทับใจและขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในครั้งนี้”
นายพัชร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 64)
Tags: CRC, KBANK, ญนน์ โภคทรัพย์, ธนาคารกสิกรไทย, พัชร สมะลาภา, สินเชื่อ, เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, แซนด์บ็อกซ์