สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนเม.ย. เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นและภาคธุรกิจสินค้าผู้บริโภคที่อ่อนแอลงนั้น ได้สกัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอุตสาหกรรม
ข้อมูลของ NBS ระบุว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนในเดือนเม.ย.ขยายตัว 57% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 7.6863 แสนล้านหยวน (1.2022 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 92.3%
ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนขยายตัว 106% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ 2.59 ล้านล้านหยวน
นายจู หง เจ้าหน้าที่ของ NBS กล่าวว่า “การฟื้นตัวของผลประกอบการในภาคการผลิตยังคงไม่เท่าเทียมกัน ขณะที่ศักยภาพในการทำกำไรของอุตสาหกรรมสินค้าผู้บริโภคก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมการผลิต”
การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในจีนได้สร้างความกังวลให้กับรัฐบาล โดยคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (NDRC) ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะใช้บทลงโทษขั้นรุนแรงต่อผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับด้านการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสกัดความร้อนแรงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
แถลงการณ์ของ NDRC ระบุว่า รัฐบาลจีนจะไม่อดทนต่อพฤติกรรมการปั่นราคาทั้งในตลาดสปอตและตลาดซื้อขายล่วงหน้า รวมทั้งจะลงโทษผู้ที่เผยแพร่ข่าวเท็จ, ซื้อขายเพื่อการเก็งกำไร และกักตุนสินค้า
ทั้งนี้ NDRC ยังกล่าวด้วยว่า ทางการจีนจะจับตาแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎข้อบังคับทั้งในตลาดสปอตและตลาดซื้อขายล่วงหน้า และทางรัฐบาลจะใช้บทลงโทษที่หนักขึ้นต่อผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 64)
Tags: NBS, จีน, จู หง, สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน, สินค้าโภคภัณฑ์, อุตสาหกรรมจีน