นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาลภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) โดยได้ดำเนินการไปแล้ว 125,162 โครงการ วงเงินงบประมาณ 314,182 ล้านบาท มีแหล่งเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น 1,138 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,274,737 ครัวเรือน ประกอบด้วย
- ผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ภายใต้การดำเนินการ 6 ด้าน ได้แก่
- (1) การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค เพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้าน 14,534 หมู่บ้าน พัฒนาน้ำดื่มให้ได้มาตรฐาน ขยายระบบประปาเมือง 388 แห่ง และเพิ่มแหล่งน้ำสำรอง 346 ล้าน ลบ.ม. เป็นต้น
- (2) การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต เพื่อจัดหาน้ำต้นทุน ลดความเสี่ยงจากภัยด้านน้ำลง 50% โดยพัฒนาแหล่งเก็บน้ำ 13,439 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 18 ล้านไร่ พัฒนาบ่อบาดาลเพื่อการเกษตร 13,860 ล้าน ลบ.ม.
- (3) การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย เพื่อลดความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนเมือง 764 แห่ง จัดทำผังน้ำทุกลุ่มน้ำ ขุดลอกลำน้ำ 6,271 กิโลเมตร ปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ แก้มลิง เป็นต้น
- (4) การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ให้แหล่งน้ำมีคุณภาพในระดับพอใช้ขึ้นไป พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย 741 แห่ง
- (5) การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดิน เพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่เสื่อมสภาพ 3.52 ล้านไร่ และป้องกันการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่เกษตรลาดชัน 21.45 ล้านไร่
- (6) การบริหารจัดการ โดยการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 และจัดทำกฎหมายลำดับรอง 12 ฉบับ
- ผลการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กระดับชุมชน ปัจจุบันมีแหล่งน้ำขนาดเล็กจำนวน 140,000 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดย สทนช.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รวมทั้งภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมดำเนินการผ่านกลไกของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สนับสนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถดูแลรักษา พัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนของตนเองได้
- ผลการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญตั้งแต่ปี 2559 คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้เห็นชอบต่อแผนงานโครงการดังกล่าว รวมจำนวน 38 โครงการ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 629 ล้านลบ.ม. เพิ่มพื้นที่ได้รับประโยชน์ได้ 1.4 ล้านไร่ มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 312,612 ครัวเรือน แบ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณแล้วจำนวน 23 โครงการ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วและอยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 11 โครงการ และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 โครงการ
นอกจากนี้ สทนช.ยังกำหนดเป้าหมายงานที่จะดำเนินการต่อไป คือ ขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็กและการจัดการแหล่งน้ำระดับชุมชน โดยมีเป้าหมายพื้นที่เกษตรน้ำฝนจำนวน 14.68 ล้านไร่ ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้าน การเติมน้ำใต้ดิน การพัฒนาแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก การฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ ขุดเจาะบ่อบาดาล ทำแก้มลิง ขุดลอก ฝายและกำจัดวัชพืช เป็นต้น
รวมทั้งการขับเคลื่อนแผนงานโครงการสำคัญและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริภายในปี 2566 รวม 526 โครงการ ประกอบด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 151 โครงการ โครงการขนาดใหญ่จำนวน 106 โครงการ และกลุ่มโครงการสำคัญที่สอดคล้องตามนโยบายการแก้ไขปัญหาด้านน้ำ รวม 269 โครงการ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ 3,172 ล้านลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์เพิ่ม 6.5 ล้านไร่ และผันน้ำได้ปริมาณน้ำเพิ่ม 3,841 ล้านลบ.ม. รวมทั้งการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ได้เพิ่ม 4.3 ล้านไร่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 64)
Tags: ครม., ทรัพยากรน้ำ, อนุชา บูรพชัยศรี, แผนแม่บท