นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่บวกขานรับกลุ่มเทคโนโลยี-ราคาน้ำมันปรับขึ้น รวมถึงบิทคอยส์รีบาวด์ แต่ตลาดบ้านเราปรับขึ้นได้มาก-น้อยแค่ไหนขึ้นกับวัคซีนโควิด นอกจากนั้น พรุ่งนี้หลายตลาดในเอเชียปิดทำการ จากนั้นเปิดมา MSCI จะปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย ดังนั้นตลาดฯคงเลือกเล่นหุ้นรายตัวแต่บิ๊กแคปคงยังไม่ขยับขึ้น แนะติดตามตัวเลขส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้าไทยวันนี้ คาดดีขึ้นส่งผลกลุ่มขนส่งทางเรือ-กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นขาขึ้น ให้แนวรับ 1,540-1,535 แนวต้าน 1,560-1,570 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขานรับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันก็ดีดตัวสูงขึ้นด้วย น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ขึ้นนำตลาดฯได้ในวันนี้ รวมทั้งบิทคอยส์รีบาวด์ช่วยหนุนตลาดได้ระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราจะปรับตัวขึ้นได้มากหรือน้อยแค่ไหนขึ้นกับปัจจัยในประเทศเรื่องวัคซีนโควิด-19 ซึ่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ายังไม่มาตลาดฯก็คงจะยังไปไหนไม่ได้ไกล และพรุ่งนี้หลายตลาดในเอเชียก็จะปิดทำการ ซึ่งเมื่อเปิดดมาในวันพฤหัสบดีก็ถึงกำหนดที่ MSCI จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ดังนั้นตลาดฯคงจะยังเป็นลักษณะของการเลือกเล่นรายตัว สลับเล่นหุ้นรายกลุ่มตามประเด็นกันไป โดยหุ้นขนาดใหญ่ยังไม่ขยับ น่าจะเล่นหุ้นขนาดเล็กเป็นรายตัว ดังนั้นคงไม่ได้ช่วยให้ดัชนีฯขยับขึ้นไปได้มาก
พร้อมให้ติดตามตังเลขส่งออก นำเข้า และดุลการค้าของไทยในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ภาพของการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น ทำให้หุ้นในกลุ่มขนส่งทางเรือและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นขาขึ้น
โดยให้แนวรับ 1,540-1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,570 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,393.98 จุด เพิ่มขึ้น 186.14 จุด (+0.54%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,197.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.19 จุด (+0.99%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,661.17 จุด เพิ่มขึ้น 190.18 จุด (+1.41%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.26 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 152.38 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ค.) 1,551.85 จุด ลดลง 0.59 จุด (-0.04%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,997.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 พ.ค.) ปิด 66.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.47 ดอลลาร์ หรือ 3.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ค.) อยู่ที่ 1.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.32 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่า จับตาตัวเลขส่งออกไทยวันนี้
- นายกฯ ปรับแผนกระจายวัคซีน หลังพบปัญหา-ล่าช้า ให้ยึดตามพื้นที่เสี่ยง ความสามารถกระจายวัคซีน โอนฝ่ายบริหารวัคซีนขึ้นตรง ศบค.พร้อมให้มหาดไทย-ผู้ว่าฯ สั่งการ ฉีดปูพรม มิ.ย.นี้ สธ.ยันแอสตร้าฯ ล็อตแรกส่งมอบมิ.ย. แจงเลื่อนฉีดเข็ม 2 ไป ต.ค. เพื่อภูมิคุ้มกันขึ้นสูงและขึ้นเร็ว อย.ระบุซิโนฟาร์มยื่นขึ้นทะเบียนในไทยแล้ว กสทช.ดึงโอเปอเรเตอร์ช่วยเปิดลงทะเบียน ค่ายมือถือประกาศพร้อมให้จอง 27 พ.ค.เริ่มฉีดบางซื่อ 7 มิ.ย.นี้
- “จุรินทร์” เผยส่งออกไทย เม.ย.ขยายตัว 13.09% ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ชี้ความต้องการสินค้าทำงานที่บ้านมากขึ้น มั่นใจพ้นจุดต่ำสุด เร่งแก้ปัญหาขาดตู้สินค้า เผย 25 พ.ค.นี้มีเรือขนตู้เปล่ามาเพิ่มหมื่นตู้
- สทท.กระทุ้งรัฐโหม บิ๊กแคมเปญปลุก “ท่องเที่ยวภูเก็ต” รับแผนเปิดประเทศ 1 ก.ค. ประเดิมเดือนแรก ทัวริสต์จ่าย “1 ดอลลาร์ต่อคืน” เสนอรัฐตั้งวงเงิน 1.5 พันล้าน หนุนค่าโรงแรม 1-1.5 พันบาทต่อห้องต่อคืน “1 ล้านห้อง” จูงใจเข้าพัก มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจ หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 4 หมื่นล้าน ด้าน “ธปท.” ถกด่วนสมาคมแบงก์ เร่งรัดสินเชื่อฟื้นฟูโครงการพักทรัพย์ ช่วยเอสเอ็มอี
- ธปท.เผยนโยบายที่ดีสุดขณะนี้คือจัดหาและกระจายวัคซีน โดย ธปท.-สศค. ยืนยันหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเกิน 60% ได้ไม่ต้องกังวลสถาบันจัดอันดับลดเครดิตไทย เพราะเป็นหนี้ต่างประเทศต่ำกว่า 2% เผยโควิดทำคนจนรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้นอีก 1.5 ล้านคน ระยะสั้นเศรษฐกิจไทยสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.2 ล้านล้านบาท.
หุ้นเด่นวันนี้
- TFG-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 560,755,500 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 5.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขาย (14 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย.2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 13 พ.ค.2567
- PTTEP (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 160 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบบวกแรง และคาดกำไรสุทธิใน Q2/64 จะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ปตท. เพราะไม่มีปัญหาเรื่อง Stock gain/loss ให้กังวลเหมือนกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ
- EPG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 15.50 บาท จะประกาศกำไร Q4/64 (ม.ค.-มี.ค.64) วันพฤหัสฯนี้ คาดยังแข็งแกร่ง -1% Q-Q, +120% Y-Y ฟื้นตัวทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์พลาสติก และฉนวน ส่วนธุรกิจประดับยนต์ TJM กำลังฟื้นตัวดี พร้อมคาดกำไรทั้งปี 2564 +24% Y-Y และจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 อีก +10% Y-Y
- KEX (ยูโอบี เคย์เฮียน) “เก็งกำไร” ผลประกอบการฟื้นตัว และได้ประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของการสั่งสินค้าออนไลน์ และถูกนำเข้าคำนวน FTSE 18 มิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 64)
Tags: SET, SET Index, กรุงไทย ซีมิโก้, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, หุ้นไทย