นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสทำกำไรจากกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์โควิด-19 คือกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสันทนาการทั่วโลก ทั้งสายการบิน, โรงแรม, Booking Platform, ธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Travel and Leisure (SCB Travel and Leisure : SCBTRAVEL) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24 – 28 พฤษภาคม 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
“ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เสียหายกว่า 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020 รวมถึงอัตราการจองโรงแรมและเที่ยวบินต่างก็ลดลงกว่า 40% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับปี 2019 (ที่มา: World Travel & Tourism Council ณ 30 มิ.ย. 63) อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2021 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสันทนาการของ 10 ประเทศชั้นนำจะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ในอัตราประมาณ 85% เทียบกับปี 2019 และฟื้นตัวเต็มที่ได้ในปี 2023 (ที่มา: Mckinsey & Co ณ 20 ต.ค. 63)
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ประเทศที่มีสาธารณสุขดีกว่าจะฟื้นตัวได้ก่อน เช่น สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงแผนการมีพาสปอร์ตการเดินทางสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และความร่วมมือเป็นกลุ่มประเทศพันธมิตรเพื่อการท่องเที่ยว (Travel Bubble) ให้เดินทางระหว่างกันได้ ส่งผลให้ธีมการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Travel & Leisure มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้”
สำหรับกองทุน SCBTRAVEL จะกระจายการลงทุนในหลากหลายกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการทั่วโลก ประกอบด้วย Booking platform, Entertainment, Airlines, Cruises and Casinos และ Hotels and resorts หรือที่เรียกว่า BEACH stock โดยกองทุนจะกระจายน้ำหนักการลงทุนในแต่ละ sub-theme เท่ากัน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนจากกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการเปิดเมืองหลังโควิด-19
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยการลงทุนในกองทุนปลายทางมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการ (Travel and Leisure) ซึ่งจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสาหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 64)
Tags: กองทุน, กองทุนรวม, ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย, หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว, หุ้นกลุ่มสันทนาการ, หุ้นไทย, ไทยพาณิชย์