สำนักข่าวซินหัวรายงานถึงบทความจากนิตยสารเดอะ ดิโพลแมทที่ตีพิมพ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 พ.ค.) โดยบทความระบุว่า สหรัฐไม่ควรตำหนิจีนที่ให้ประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) กู้ยืมเงิน และในทางกลับกันควรจะขยายการให้กู้ยืมเงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐานแก่ประเทศยากจนด้วย
บทความดังกล่าวระบุว่า “แทนที่สหรัฐจะตำหนิที่จีนให้ประเทศต่างๆ ตามแนวโครงการ BRI กู้ยืมเงิน สหรัฐควรจะมีส่วนร่วมในการให้กู้ยืมเงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐานแก่ประเทศยากจน และ/หรืออำนวยความสะดวกให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีในการปล่อยกู้ให้กับโครงการดังกล่าวและลดข้อกำหนดของระบบราชการลง”
บทความยังเสริมด้วยว่า โครงการ BRI ถูกกล่าวหาซ้ำๆ จากบางฝ่ายว่าเป็นกับดักหนี้สินและการกอบโกยอำนาจ แต่การวิจัยอย่างรอบด้านก็พิสูจน์แล้วว่าข้ออ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ บทความยังอ้างคำพูดของเดบอราห์ เบราติแกม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยจีนแอฟริกาของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ที่ระบุว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าธนาคารจีนให้กู้ยืมเกินวงเงินหรือลงทุนในโครงการที่ขาดทุนเพื่อแผ่อิทธิพลของจีนในประเทศดังกล่าว
“มีหลักฐานเพิ่มเติมว่าจีนไม่มีส่วนร่วมในการทูตกับดักหนี้” บทความระบุ
บทความยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ประเทศที่เลือกเข้าร่วม BRI ไม่ได้มีเพียงประเทศยากจน โดยโครงการ BRI นั้นไม่เพียงเข้าถึงแอฟริกา ลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังเข้าถึงเอเชียตะวันออกและยุโรปด้วย และในขณะเดียวกัน โครงการ BRI ของจีนก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 64)
Tags: Belt and Road Initiative, BRI, จีน, จีนสหรัฐ, ปล่อยกู้, สหรัฐ