รมช.เกษตรฯ เร่งควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ หลังแพร่ระบาดใน 35 จ.

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า โรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในโค กระบือ ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ โดยขณะนี้โรคดังกล่าวได้แพร่ระบาดใน 35 จังหวัด ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ และได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่า มีโค กระบือป่วยกว่า 7,000 ตัว จาก 6 ล้านตัวทั่วประเทศ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ไขปัญหาการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน

ดังนั้นเพื่อให้การควบคุม ป้องกัน และจำกัดโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อคลายความวิตกกังวลของเกษตรกร กระทรวงเกษตรฯ จึงร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัด เตรียม Kick off รณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน ในวันที่ 25-26 พ.ค.64 ใน จ.ขอนแก่น และมุกดาหาร โดยการปล่อยขบวนสัตวแพทย์เคลื่อนที่ หน่วยพ่นยาทำลายเชื้อโรค แจกและพ่นสารเคมีกำจัดแมลงที่เป็นพาหะ แจกยารักษาแผลภายนอก ยาบำรุง แร่ธาตุ ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจโรคและการป้องกันให้กับพี่น้องเกษตรกร พร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของโรคอย่างใกล้ชิด

รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า แผนปฏิบัติการฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน แบ่งเป็น 2 โซน คือ

  1. พื้นที่เกิดโรค Infected Zone 50 กิโลเมตร โดยฉีดวัคซีนในอำเภอที่อยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากพื้นที่เกิดโรค และมีมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายโค กระบือที่ฉีดวัคซีนออกจากคอกเลี้ยงเป็นระยะเวลา 30 วัน
  2. พื้นที่เฝ้าระวังโรค Surveillance Zone 100 กิโลเมตร ไม่ฉีดวัคซีน สามารถเคลื่อนย้ายภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อเป็นการดำเนินการฉีดวัคซีนต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมปศุสัตว์ รวมทั้งต้องมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ที่ฉีดวัคซีนทุกตัว

“วัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ล็อตแรกจะถึงในวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.นี้ จำนวน 60,000 โดส ทั้งนี้การออกให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันแก่โค-กระบือของเกษตรกร จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน เป็นผู้พิจารณา โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามแต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

นายประภัตร กล่าว

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนต้องปฏิบัติควบคู่กับมาตรการของกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะควบคุมการเคลื่อนย้าย และกำจัดแมลงพาหะของโรค ในส่วนของเกษตรกรที่มีความตื่นตระหนกและมีความต้องการวัคซีนสูง ขอชี้แจงว่าวัคซีน 60,000 โดสนี้ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน จะทำการแจกจ่ายไปตามพื้นที่ที่เกิดโรคในขณะนี้ก่อน ซึ่งบางจังหวัดยังไม่เกิด แต่มีความต้องการด้วย จึงเตรียมของบกลางเพิ่มอีกสำหรับจังหวัดที่ต้องการ

สำหรับสถานการณ์โรคลัมปีสกิน (21 พ.ค.64) พบรายงานการเกิดโรคลัมปี สกิน ใน 35 จังหวัด เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 2,172 ราย โคกระบือป่วยสะสม 7,200 ตัว และตายสะสม 53 ตัว คิดเป็นอัตราป่วยเฉลี่ย 27% อัตราตายเฉลี่ย 0.19%

ด้านนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า โรคลัมปี สกิน เกิดจากเชื้อไวรัส จะเกิดเฉพาะในโค-กระบือ ไม่ติดต่อจากสัตว์สู่คน รักษาหายได้ และสามารถบริโภคได้ โดยสัตว์ที่ป่วยจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้คือ พบตุ่มเนื้อบนผิวหนัง และเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์อาจมีไข้และหายใจลำบากร่วมด้วย ขอให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์มีอาการผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 06-3225-6888 หรือทางแอพพลิเคชั่น DLD4.0 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

สำหรับ 5 มาตรการควบคุมและป้องกันโรคลัมปี สกิน มีดังนี้

  • 1) ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด
  • 2) เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว
  • 3) การป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนาโรค
  • 4) รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ เพื่อลดความสูญเสียแก่เกษตรกร
  • 5) การใช้วัคซีนควบคุมโรค กรณีมีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายให้ปฏิบัติตามตามแนวทางการเคลื่อนย้ายที่กรมปศุสัตว์กำหนด จึงย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจตราอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีความกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top