RATCH เข้าถือหุ้น 10% ใน PRINC รวมมูลค่า 1.56 พันลบ.เล็งหาช่องลงทุนเพิ่ม

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบมจ.พริ้นซิเพิล แคปิ ตอล (PRINC) ในสัดส่วน 10% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ PRINC

ภาพ: นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH)

แบ่งเป็น 1.การลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ PRINC จำนวน 346,233,682 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 9.09% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ PRINC หลังจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ) ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท และ 2.ซื้อหุ้นสามัญเดิมของ PRINC จากนางสาวสาธิตา วิทยากร จำนวน 34,623,369 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 0.91% ของหุ้นที่ออกและชาระแล้วทั้งหมดของ PRINC หลังจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ) ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,557,705,338.59 บาท โดยบริษัทจะเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องต่อไป

อนึ่ง เดิม PRINC ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ต่อมาได้มีการซื้อกิจการที่ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และได้ปรับเปลี่ยนการประกอบธุรกิจหลักมาเป็นธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน

นายกิจจา กล่าวว่า แหล่งเงินลงทุนในครั้งนี้ บริษัทใช้เงินทุนของบริษัทเอง โดยในปี 64 ได้วางงบลงทุนไว้ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 8,000 ล้านบาท ใช้ในโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และอีก 7,000 ล้านบาท ใช้ในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และธุรกิจสาธารูปโภคพื้นฐาน ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับต่ำที่ระดับ 0.6 เท่า ซึ่งยังมีสภาพคล่องอีกมาก หรือสามารถรองรับการลงทุนได้อีกหลายหมื่นล้านบาท มั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ธุรกิจบริการสุขภาพในประเทศไทยมีศักยภาพการเติบโตอย่างมีนัยในระยะยาว จากสภาวะสังคมผู้สูงอายุ และพฤติกรรมความสนใจการดูแลสุขภาพของคนในสังคมที่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญของทั้งห่วงโซ่มูลค่าของธุรกิจนี้ด้วย ไม่เพียงเฉพาะการบริการทางแพทย์และบริการส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพด้วย

ภาพ: นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิ ตอล (PRINC)

นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นว่าโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า กล่าวคือ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในจัดการความเสี่ยงและบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ

บริษัทมองว่าจะสามารถเข้าไปช่วย PRINC ในเรื่องของการลดต้นทุนพลังงาน และนวัตกรรมต่างๆ อีกทั้งในอนาคตหากมีโอกาสก็จะพิจารณาเข้าลงทุนเพิ่มเติม เนื่องด้วยการลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว แม้ว่าช่วงต้นของการลงทุนอาจมีผลขาดทุน ซึ่งคล้ายกับการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะรับรู้รายได้ก็ต่อเมื่อมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)

“บริษัทฯ มองว่าธุรกิจบริการสุขภาพมีศักยภาพการเติบโตอย่างมากในอนาคต ซึ่งเมื่อกลุ่ม PRINC ต้องการผู้ร่วมทุน จึงเป็นโอกาสที่ดีให้ RATCH ได้เข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างจริงจัง โดยในช่วงเริ่มลงทุนขยายฐานธุรกิจด้านบริการสุขภาพนี้ RATCH กับ PRINC จะผนึกความแข็งแกร่งเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจของ PRINC ที่มุ่งเน้นสร้างฐานธุรกิจในตลาดเมืองรองทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพให้กับประชาชนด้วยการให้บริการและการจัดการต้นทุนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯเช่นกัน บริษัทฯ เชื่อมั่นในแผนการเติบโตของ PRINC ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายและนำพาความยั่งยืนมาสู่องค์กรและความร่วมมือเพิ่มเติมของทั้งสองบริษัทฯในอนาคต” นายกิจจา กล่าว

นอกจากการลงทุนในธุรกิจบริการสุขภาพแล้ว บริษัทยังสนใจในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่ง และสื่อสาร เป็นต้น

ด้านนายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ PRINC เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งสำคัญยิ่งนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 65 รวม 20 แห่งจากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 65 โดยวางงบลงทุนรวม 5,000-6,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ทั้ง RATCH กับ PRINC มองทิศทางการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะฝั่งผู้สูงอายุ ซึ่งยังถือว่ามีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก พร้อมร่วมมือและการพัฒนาฝั่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในเชิงสุขภาพ พลังงานสะอาดและด้านอื่นๆเป็นตามปณิธานของ PRINC การพัฒนาคนให้มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยังยืน

“ก่อนหน้านี้ทาง RATCH เข้ามาศึกษาธุรกิจของ PRINC ต่อเนื่อง จนเชื่อมั่นว่าเราสามารถบริหารโรงพยาบาล โดยใช้โมเดล Shared Services ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญเรามีทีมแพทย์ บุคลากร และทีมผู้บริหารที่มีศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพอื่นๆ ในอนาคต

เราเชื่อมั่นว่า PRINC สามารถดูแลรักษาคนไข้ควบคู่กับการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน (Creating Shared Value) ในทุกพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่และคาดหวังว่า RATCH จะช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Platform ทางการแพทย์เพื่อสร้างประสบการณ์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยโดยเฉพาะเมืองรอง ให้มีโอกาสได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดี” นายสาธิต กล่าว

พร้อมกันนี้การขยายโรงพยาบาลดังกล่าวจะมุ่งขยายไปในในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ หรือขาดบริการทางการแพทย์ และเน้นการซื้อกิจการ (M&A) เป็นหลัก เพื่อคืนทุนได้เร็ว ลดการสร้างใหม่ให้น้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ในอนาคตบริษัทจะไม่ขาดทุนอีกแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถกลับมามีกำไรสุทธิได้ในปี 65 เป็นต้นไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top