บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2564 มีมติรับทราบการเปลี่ยนชื่อของบริษัทย่อยของบริษัท จากเดิมชื่อ บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด” เปลี่ยนเป็นชื่อ บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด (JKN Best Life) และการเปลี่ยนแปลงลักษณะการประกอบธุรกิจจากเดิมให้บริการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล โดยขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจหลัก เป็นการให้บริการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล และการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และสินค้าอุปโภคบริโภค
พร้อมกันนั้นมีมติอนุมัติการยกเลิกการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล ลิฟวิ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด (JKN Global Living) จากผู้ถือหุ้น คือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาทิพย์, นางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ และ นางพิสมัย ลิขิตอำนวย โดยเห็นควรให้ JKN Best Life เข้าทำรายการซื้อเฉพาะสินค้าคงเหลือและสินค้าระหว่างผลิต รวมถึงเครื่องหมายการค้าในสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ตลอดจนสินค้าอุปโภคและบริโภค ทั้งหมดจาก บริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด และบริษัท เจเคเอ็น จีเนียส แฟมิลี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JKN Global Living แทนการเข้าซื้อหุ้น JKN Global Living
เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่า วัตถุประสงค์หลักในการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ JKN Global Living คือ การขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งสินค้าดังกล่าวทั้งหมดอยู่ภายใต้บริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด และบริษัท เจเคเอ็น จีเนียส แฟมิลี่ จำกัด หาก JKN Best Life เข้าทำรายการซื้อสินค้าคงเหลือและสินค้าระหว่างผลิตรวมถึงเครื่องหมายการค้าจากบริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด และบริษัท เจเคเอ็น จีเนียส แฟมิลี่ จำกัด แล้ว JKN Best Life จะเป็นเจ้าของสินค้าและเครื่องหมายการค้า โดยจะเป็นผู้สั่งผลิต จัดจำหน่าย ตลอดจนพัฒนาต่อยอดในสินค้าและเครื่องหมายการค้าดังกล่าว และที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตต่อไป โดยไม่ต้องพึ่งพากลุ่ม JKN Global Living ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีความจำเป็นในการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ JKN Global Living อีก
ทั้งนี้ การยกเลิกมติและจัดโครงสร้างใหม่ดังกล่าวเป็นการขจัดการดำเนินงานในลักษณะของรายการเกี่ยวโยงกัน ก่อให้เกิดความคล่องตัว ลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินธุรกิจ สามารถต่อยอดธุรกิจของ JKN Best Life ได้เป็นอย่างดี และสร้างผลประโยชน์ในภาพรวมให้แก่บริษัทได้ดีกว่า
สำหรับสินค้าคงเหลือและสินค้าระหว่างผลิตที่บริษัทเข้าซื้อนั้น เป็นประเภทสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งผลิตในช่วงเดือน ต.ค.63 เป็นต้นมา และโดยส่วนใหญ่มีอายุสินค้าคงเหลือไม่ต่ำกว่า 1 ปีโดยซื้อที่ราคาต้นทุนของสินค้าดังกล่าว บวกร้อยละ 5 ของราคาต้นทุน เป็นจำนวนเงิน 16,800,000 บาท จ่ายชำระครั้งเดียวและเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิตซึ่งเป็นราคาตลาด โดยส่วนเพิ่มดังกล่าวเป็นการจ่ายชำระในลักษณะของค่าดำเนินการ
นอกจากนี้ ราคาการซื้อเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามมูลค่ายุติธรรมที่ประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระ เป็นจำนวนเงิน 11,210,000 บาท รวมเป็นราคาในการซื้อสินค้าคงเหลือ และสินค้าระหว่างผลิต รวมถึงเครื่องหมายการค้า ทั้งสิ้น 28,010,000 บาท โดยคาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.64
คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ จำกัด (MNB) ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นโรงงานผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบบบรรจุขวด และให้บริการในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าโดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ MNB จำนวน 557,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาซื้อขายหุ้นละประมาณ 137.20 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 76,500,000 บาท โดยภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าว บริษัทจะถือหุ้นจำนวน 60% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ MNB
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 64)
Tags: JKN, JKN Best Life, JKN Global Living, MNB, จักรพงษ์ จักราจุฑาทิพย์, ดีเอ็น บรอดคาสท์, พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์, พิสมัย ลิขิตอำนวย, สถานีโทรทัศน์ดิจิตอล, สินค้าอุปโภคบริโภค, หุ้นไทย, เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์, เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ