นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่อง CPTPP ด้านการเกษตรและพันธุ์พืช ผ่านระบบ VDO Conference (Zoom) โดยประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในวันนี้ คือ
1) การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช 2542 ให้มีผลใกล้เคียงกับอนุสัญญา UPOV 1991
2) การแจ้งสหภาพ UPOV ให้นำชื่อประเทศไทยออกจากเว็บไซต์ของ UPOV และ
3) สินค้าเกษตรที่มีมาตรการปกป้องพิเศษ (Special Safeguard : SSG)
ในเบื้องต้น กระทรวงเกษตรฯ ไม่ปฏิเสธในการเข้าร่วมความตกลง CPTPP แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรและประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งการหารือในวันนี้เป็นการนำเสนอปัญหาในด้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเจรจาแก้ไข จึงต้องมีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านงบประมาณ บุคลากร ความพร้อมของเกษตรกร เทคโนโลยี และการสื่อสารทำความเข้าใจต่อประชาชน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของกระทรวงเกษตรฯ มีการดำเนินการด้านต่างประเทศในหลายมิติ โดยมีความพร้อมในการประสานในด้านต่างๆ ซึ่งทูตเกษตรถือเป็นหน่วยงานในต่างประเทศที่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การขับเคลื่อนงานดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การปรับตัวของเกษตรกร การยกระดับเกษตรกรให้สามารถแข่งขันได้ การดึงเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ และการสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศ ล้วนเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร และถึงแม้ว่าจะไม่มี CPTPP หรือโควิด-19 นโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ก็มีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ของโลกอย่างชัดเจน และพร้อมปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 64)
Tags: CPTPP, ดอน ปรมัตถ์วินัย, เกษตรกร, เฉลิมชัย ศรีอ่อน