สหภาพยุโรป (EU) มีมติเห็นชอบให้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางช่วงโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตัวแทนของ EU ทั้ง 27 ประเทศมีมติเห็นชอบตามต่อข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งได้เสนอไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ให้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการกำหนดประเทศที่ “ปลอดภัย” และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้ามาในสหภาพยุโรปได้
สำหรับรายชื่อประเทศใหม่ที่กำหนดว่ามีความปลอดภัยนั้น คาดว่าจะแจ้งในสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) คาดว่า ชาวอังกฤษและอีกหลายประเทศ รวมถึงชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถเดินทางเข้ามาได้
ส่วนมาตรการควบคุมในปัจจุบัน มีประชาชนจาก 7 ประเทศเท่านั้นที่เข้ามาท่องเที่ยวใน EU ได้ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือยังก็ตาม ซึ่งรวมถึง ออสเตรเลีย, อิสราเอล และสิงคโปร์ โดยสมาชิก EU แต่ละประเทศสามารถเลือกได้ว่าจะขอให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หรือแสดงผลการตรวจหาโควิด-19 เป็นลบก็ได้
นอกจากนี้ มาตรการข้อหลักในขณะนี้ยังระบุให้ประเทศที่เข้าเกณฑ์จะต้องมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 25 คนต่อประชากร 100,000 รายในช่วง 14 วันที่ผ่านมา โดยยอดผู้ติดเชื้อจะต้องทรงตัวหรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว นอกจากนี้ ยังต้องมีผลการตรวจหาเชื้อเชิงรุกที่มากพอ เพื่อแสดงเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำของจำนวนผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบ ขณะเดียวกัน ยังมีการพิจารณาถึงการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ที่สร้างความวิตกกังวลด้วย
เจ้าหน้าที่ตัวแทนของ EU รายหนึ่งระบุว่า แม้ว่าสมาชิก EU แต่ละประเทศจะกำหนดนโยบายของตัวเองไว้แล้วก็ตาม แต่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียในอังกฤษยังเป็นประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย โดยล่าสุด โปรตุเกสได้ยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจากอังกฤษเดินทางเข้าประเทศไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 64)
Tags: COVID-19, EU, ฉีดวัคซีน, ชาวอังกฤษ, ชาวอเมริกัน, ท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยวต่างชาติ, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหภาพยุโรป, โควิด-19