สถานีโทรทัศน์ CTV ของแคนาดารายงานว่า แคนาดาและสหรัฐคาดว่าจะขยายเวลาจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนในกรณีที่ไม่มีเหตุจำเป็นออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือนจนถึงวันที่ 21 มิ.ย. ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3
ข้อตกลงจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนบังคับใช้เป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และมีการต่ออายุข้อตกลงทุกเดือนนับตั้งแต่นั้น โดยบุคลากรในสายงานที่จำเป็น เช่น พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า และผู้ให้บริการฉุกเฉินต่างๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่สำคัญเช่น พยาบาล ที่อาศัยและทำงานอยู่คนละฟากของชายแดน จะได้รับการยกเว้น
รายงานระบุว่า การค้าข้ามพรมแดนระหว่างแคนาดาและสหรัฐมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์แคนาดา และในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว มีรายงานพบผู้เดินทางข้ามพรมแดนประมาณ 300,000 คนต่อวัน
นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า การยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชุนในระดับที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง
นายทรูโดกล่าวว่า “เราทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่เรารู้ดีว่า ก่อนที่เราจะกลับสู่ภาวะปกติ เราจำเป็นต้องควบคุมยอดผู้ติดเชื้อ และประชาชนกว่า 75% ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในแคนาดาได้”
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันอังคารที่ 18 พ.ค. แคนาดารายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 1,337,730 ราย และมีผู้เสียชีวิต 25,016 ราย
หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดากล่าวว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แคนาดารายงานพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 5,700 รายต่อวัน และยอดผู้ป่วยที่มีอาการป่วยรุนแรงและวิกฤตยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยกว่า 3,600 รายเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในแต่ละวัน รวมถึงห้องผู้ป่วยหนักกว่า 1,300 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 43 รายต่อวัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 64)
Tags: การเดินทาง, จัสติน ทรูโด, พรมแดน, สหรัฐ, แคนาดา