นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. … เพื่อปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ตั้งแต่มิ.ย.-ส.ค. เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จาก 5% เหลือฝ่ายละ 2.5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบลดลง จากเดิมเดือนละ 432 บาท เป็นเดือนละ 216 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2564 สำหรับฝ่ายรัฐบาลยังส่งเงินสมทบในอัตราเดิม คือ 2.75% ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้างและผู้ประกันตน รวมทั้งยังช่วยรักษาระดับการจ้างงานของนายจ้างด้วย
โดยมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อให้ทันต่อระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนในงวดเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้การลดอัตราเงินสมทบเป็นเวลา 3 เดือน จะทำให้กองทุนประกันสังคม จัดเก็บเงินสมบทได้ลดลง 20,163 ล้านบาท แต่นายจ้างและผู้ประกันตน จะได้รับประโยชน์จากการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยในส่วนของนายจ้างจำนวน 485,113 ราย จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ 9,487 ล้านบาท และผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11.1 ล้านคน จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ 9,487 ล้านบาท ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.8 ล้านคน จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ 1,189 ล้านบาท และเมื่อรวมผู้ประกันตนทั้ง 12.9 ล้านคนแล้ว จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ถึง 10,676 ล้านบาท รวมเป็นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 20,163 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 64)
Tags: ประกันสังคม, ผู้ประกันตน, อนุชา บูรพชัยศรี, อัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม