นายกฯ ตรวจจุดฉีดวัคซีนโควิดห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ก่อนเปิดให้บริการจริงพรุ่งนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว. สาธารณสุข พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการทดลองระบบการฉีดวัคซีนที่จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ

สำหรับจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 บริเวณ MCC Hall ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ เป็น 1 ใน 14 แห่งนำร่องต้นแบบของสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หน่วยนี้จะเปิดให้บริการฉีดจริงในวันเสาร์ที่ 15 พ.ค. นี้ สามารถฉีดวัคซีนได้วันละ 2,000 คน/วัน โดยฉีดวัคซีนให้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัครและกลุ่มอาชีพเสี่ยง ที่ได้รับการลงทะเบียนกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไปจะต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมโดยเตรียมลงทะเบียนได้ในเร็วๆนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภารกิจช่วงนี้เป็นการเดินสายลงพื้นที่จุดต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเตรียมความพร้อมปรับปรุงรูปแบบพัฒนาการให้บริการประชาชนให้ดีขึ้น โดยย้ำว่า ให้ทุกฟังข้อมูลจากช่องทางของรัฐอย่าคิดไปคนละอย่าง ซึ่งทั้งหมดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าให้การบริหารจัดการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งในพื้นที่การแพร่ระบาดสูงและระบาดต่ำ

โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำแนวทางสำคัญคือ การคัดกรองทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อนำไปสู่การรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม Hospitel ขึ้นมารองรับ และการทำงานในภาพรวมได้หารือกับทุกภาคส่วนมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มกระบวนการจัดหาวัคซีน ดังนั้นการที่เอกชนเข้ามาส่วนรวมจึงไม่ใช่การกดดันรัฐบาล แต่เป็นสิ่งที่ได้หารือกันมาต่อเนื่อง แต่บางครั้งไม่ได้ออกมาสื่อสารทั้งหมด หรือแม้กระทั่งหารือกันแล้วออกมาพูดอีกอย่าง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกไม่ดี ดังนั้นพูดในที่ประชุมก็ให้พูดเหมือนกัน

Infographic: 14 จุดฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ที่จะทยอยเปิดให้บริการต่อเนื่องยาวไปถึงสิ้นปี 64 เบื้องต้นจะให้บริการกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” เท่านั้น สำหรับการเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปให้รอประกาศจากทางการต่อไป

ย้ำรัฐบาลไม่ปิดกั้นนำเข้าวัคซีน

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการนำเข้าวัคซีน ซึ่งล่าสุดได้ขึ้นทะเบียนของบริษัทโมเดอร์นาแล้ว และขณะนี้กำลังเจรจากับประเทศต่างๆอีก เพื่อจัดหาวัคซีนสำรองเพิ่มเติมจากวัคซีนหลักของไทย คือแอสตร้าเซนเนกา ขณะเดียวกันภายในเดือนนี้ก็ได้รับวัคซีนจากบริษัท ซิโนแวก เข้ามาเพิ่มอีก 3.5 ล้านโดส ดังนั้นการกระจายวัคซีนของไทยจึงไม่ได้ล่าช้า ล่าสุดตนเองได้สั่งการให้มีการสนับสนุนการทำงานของศูนย์กระจายวัคซีนในพื้นที่ระดับภูมิภาค ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เพื่อให้การกระจายวัคซีนเป็นไปได้รวดเร็วมากขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลต้องบริหารจัดการวัคซีนให้กับทุกคน ตั้งแต่บุคลากรด่านหน้า กลุ่มเสี่ยงต่างๆ และยังต้องมองถึงกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะ กลุ่มภาคบริการส่งสินค้า และอาหาร นักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมอีก 16 ล้านคน ที่จะต้องจัดลำดับความเหมาะสมในการรับวัคซีน

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 ต้องสู้ไปด้วยกัน ร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล เอกชน ประชาชน โดยรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาด พร้อมทั้งจัดหาวัคซีนเพื่อคนไทยทุกคน ซึ่งจะต้องร่วมแรงร่วมใจเดินไปในทิศทางเดียวกัน ไม่โทษกันไปมา เพราะสิ่งนี้ไม่สามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลง พร้อมกับยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยโทษประชาชนตามที่มีการบิดเบือนข้อมูล

ส่วนกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ออกกฎให้ทุกคนรับการฉีดวัคซีน หากไม่ปฎิบัติตามก็จะถูกดำเนินคดีนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า มาตรการต่างๆเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ซึ่งอาจจะทำเพื่อเตือนคล้ายคลึงกับกรณีของค่าปรับการไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ทั้งนี้มองว่า สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องทำให้ตัวเองปลอดภัย โดยไม่ต้องมีใครมาเตือน

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และ กทม.กำลังพิจารณาแนวทางเพื่อผ่อนผันให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร สามารถเปิดให้นั่งรับประทานในร้านได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข เบื้องต้นกำหนดให้นั่งในร้านได้ เพียง 25 % หรือ 1 ใน 4 ของพื้นที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ตามแนวชายแดนในขณะนี้ ยังคงคุมเข้มมาตรการการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย เช่น ชายแดนไทย-เมียนมา ที่จะมีปัญหาเรื่องของการหนีภัยการเมือง มายังชายแดนไทย ซึ่งไทยได้มีจุดพักคอยให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม และเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขป้องกันโควิด-19

อย่างไรก็ตามตนเองได้ชี้เจงรายละเอียดทั้งหมดนี้ให้กับทางผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติ ที่เข้าพบหารือในวันนี้แล้ว และเชื่อว่า เมื่อสถานการณ์ในฝั่งเมียนมากลับสู่ภาวะปกติ ผู้ที่ลักลอบเข้ามาก็สามารถส่งกลับได้

พร้อมกันนี้ นายกฯได้ยกมือแสดงสัญลักษณ์ ตัว วี และ ไอเลิฟยู พร้อมกล่าวว่า หมายถึงสัญลักษณ์ตัววีในวันนี้ว่า หมายถึงวัคซีนที่จะเอาชนะโควิด-19 ควบคู่ไปกับสัญลักษณ์คำว่า love ที่เราต้องรักสามัคคีกัน รักตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ด้วยสองสิ่งนี้ประเทศไทยจึงจะฝ่าฟันผ่านพ้นวิกฤติโควิด 19 ไปได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top