สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะรัฐมนตรีของอังกฤษอาจต้องเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่สองให้กับประชาชนหลายล้านคน หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน แสดงความกังวลถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากอินเดีย
กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.617.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียนั้น เพิ่มขึ้นเป็น 1,313 รายจาก 520 รายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยประเมินว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่กระจายได้ไม่น้อยกว่าสายพันธุ์อังกฤษซึ่งระบาดเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และนำไปสู่การล็อกดาวน์ครั้งที่สามในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
“เรากังวลกับโควิดสายพันธุ์อินเดียที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้” นายจอห์นสันกล่าว “มีหลายสิ่งที่เราอาจต้องทำ และจะยังไม่หยุดล็อกดาวน์”
การแสดงความเห็นของนายจอห์นสันทำให้มีแนวโน้มว่า รัฐบาลอาจต้องชะลอแผนเปิดเศรษฐกิจหลังการล็อกดาวน์รอบที่สาม ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเศรษฐกิจโดยเร็ว ขณะที่อังกฤษเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คืบหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
นายสตีฟ เบเกอร์ ประธานกลุ่ม Covid Recovery Group ของพรรคอนุรักษ์นิยมเผยในแถลงการณ์ว่า “เหตุใดเราจึงต้องล็อกดาวน์ในเมื่อวัคซีนยังคงสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อ, ผู้ป่วยในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่อง” และระบุอีกว่า “รัฐบาลระบุว่า การดำเนินแผนงานควรใช้ความระมัดระวัง แต่ก็มีข้อมูลที่ให้ความหวังจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นในโครงการฉีดวัคซีนของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS) แผนการนี้จึงไม่ควรเปลี่ยนแปลง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)
Tags: COVID-19, บอริส จอห์นสัน, ล็อกดาวน์, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สตีฟ เบเกอร์, อังกฤษ, อินเดีย, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์อินเดีย