นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวต เตรียมเพิ่มงบลงทุนีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากงบลงทุนเดิมที่ได้มาตั้งแต่ช่วงเริ่มการลงทุนในช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 60 ที่มีอยู่ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้ใช้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพไปครบแล้ว โดยเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มเติมนั้นจะรองรับการลงทุนในช่วงปี 64-65 ซึ่งธนาคารมีความสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 6-8 บริษัท และสตาร์ทอัพราว 20 ราย ขนาดการลงทุนในปีนี้ และจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 120 โครงการในช่วง 2 ปีนี้
การลงทุนใหม่ในช่วงปี 64-65 นั้นธนาคารจะยังคงเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Fintech, E-commerce, Real estate, Mobility และ Blockchain ขนาดการลงทุนแต่ละรายจะอยู่ที่ 1-20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีการทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง และจะให้ความสำคัญมากขึ้นกับการยกระดับธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็น Digital Banking อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับธีมในการลงทุนที่ธนาคารจะเนน้นในช่วง 2 ปีนี้ จะเป็น Digital Bank Transformation ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพของการให้บริการธนาคารผ่านระบบดิจิทัลที่ดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกยุคใหม่ได้ โดยเฉพาะการที่ธนาคารจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจประเภท Neo Bank ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงินรายเล็กๆในยุโรปที่มีอยู่มาก เพื่อนำความสามารถและประสิทธิภาพของธุรกิจดังกล่าวมาใช้ในการต่อยอดการให้บริการของธนาคาร และทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของธนาคารลดลง จากการที่นำความรู้ในการบริหารงานของ Neo Bank ที่ใช้พนักงานเพียง 1,000 คน บริการลูกค้า 5 ล้านคน ต่างจากธนาคารในไทยที่ต้องใช้พนักงานมากถึง 10,000 คน บริการลูกค้า 5 ล้านคน ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า Neo Bank ถึง 10 เท่า ทำให้ธนาคารเล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาการดำเนินงานของธนาคาร
นอกจากนี้การศึกษาการเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Decentralized Finance (Defi) ยังเป็นสิ่งที่ธนาคารจะรุกเดินหน้ามากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของวงการให้บริการทางการเงินในอนาคตที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้องในการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ซและมีการให้บริการทางการเงินที่อยู่ใน Defi หลากหลายรูปแบบที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต และสามารถนำมาต่อยอดการให้บริการของธนาคารได้อีกด้วย
ปัจจุบันกรุงศรี ฟินโนเวต กำลังทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพกว่า 50 บริษัท กว่า 100 โครงการ และส่งเสริมการทำงานด้านดิจิทัลของกรุงศรีและบริษัทในเครือถึง 35 หน่วยธุรกิจ และถือเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ในปี 64 ที่ได้มีโครงการที่สนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไกลได้กว่าเดิม เช่น โครงการ Meet the Angels ที่เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยได้นำเสนอแผนธุรกิจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มีนักลงทุนเข้าร่วมกว่า 170 คน และทำให้เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพหลายราย
โครงการ Meet the Angels Sandbox ที่เป็นโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพสำหรับกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้น (Early-stage startups) หรือแม้แต่การสนับสนุนส่งเสริมให้พนักงานในกรุงศรีเองได้พัฒนาศักยภาพ นำเสนอไอเดียและเข้ารับการพัฒนาเพื่อที่จะผันตัวมาเป็นสตาร์ทอัพได้ ภายใต้ชื่อ กรุงศรี ยูนิคอร์น (Krungsri Unicorn) พนักงานที่นำเสนอไอเดียและแผนธุรกิจและได้รับการคัดเลือก จะได้รับโอกาสในการเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ (Startup Founder) ทำโครงการให้เกิดขึ้นได้จริง รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั้งในด้านเงินทุน ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับธนาคารด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 64)
Tags: BAY, Digital Banking, กรุงศรี ฟินโนเวต, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, สตาร์ทอัพ, แซม ตันสกุล