นายวิชัย ชุณหสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานปี 64 จะเติบโตจากปีก่อน เนื่องจากปี 63 มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันค่อนข้างมาก หลังจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงจาก 67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็น 23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงไตรมาสแรกของปี ทำให้โรงกลั่นทั่วโลกขาดทุนสต็อกน้ำมัน ประกอบกับยังได้รับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย
ขณะที่ในปี 64 ราคาน้ำมันดิบได้ฟื้นตัวขึ้น จากสิ้นปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ณ สิ้นไตรมาส 1/64 ส่งผลให้บริษัทกลับมามีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ประมาณ 66 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ราคาน้ำมันจะเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อบริษัทให้มีกำไรจากสต็อกน้ำมันได้
นอกจากนั้น ยังคาดว่าค่าการกลั่นการตลาด (GRM) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะไม่ต่ำกว่าไตรมาส 1/64 ที่อยู่ในระดับ 3.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก
นายวิชัย กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5-6 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจะมาจากทางสหรัฐและจีน หลังจากทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจมีผลกระทบจากอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ เนื่องด้วยประเทศดังกล่าวยังประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกันในฝั่งของผู้ผลิต หรือซัพพลาย คาดว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต 2.4 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมาจากโอเปกพลัส ซึ่งน่าจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าดีมานด์และซัพพลายค่อนข้างจะสมดุลกัน ทำให้คาดว่าในปี 65 จะสามารถกลับมาอยู่ในระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้
ด้านการลงทุนในปีนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ไม่เกิน 34 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุงโรงกลั่น (Refinery upgrade), การจัดการสภาพแวดล้อม และอื่นๆ อีกทั้งบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Oil&Gas เพื่อขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 64)
Tags: SPRC, ธุรกิจน้ำมัน, ธุรกิจพลังงาน, น้ำมัน, วิชัย ชุณหสมบูรณ์, สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง, หุ้นไทย