WINMED ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 6.05 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 95.16%

หุ้น WINMED ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 6.05 บาท เพิ่มขึ้น 2.95 บาท (+95.16%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.10 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,835.47 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 7.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 5.95 บาท

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้รับประกันการจัดจำหน่ายและผู้จำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับ บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) กล่าวว่า ราคาเปิดการซื้อขายของหุ้น WINMED ในวันนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 135.48% จากราคาเสนอขาย IPO ที่ 3.10 บาท/หุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในธุรกิจของ WINMED ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเฮลธ์แคร์ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ตอบรับกับกระแสในปัจจุบันที่ตลาดที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก และบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ในตลาดนี้มาอย่างยาวนาน มีฐานลูกค้าระดับโลกที่เป็นคู่ค้าของบริษัท ทำให้การดำเนินธุรกิจมีความมั่นคง และมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันการระดมเงินทุนจาก IPO บริษัทจะนำเงินไปใช้รองรับการลงทุนใหม่ 2 โครงการ ทั้งการลงทุนก่อสร้างห้องตรวจเชื้อ HPV และการลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการเซลล์บำบัด (Cell Therapy) ซึ่งจะทยอยสร้างรายได้เข้ามาเสริมให้กับบริษัทได้ในระยะเวลาไม่นานนี้ ทำให้บริษัทยังมีทิศทางในการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต และไม่หยุดอยู่กับที่ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในหุ้น WINMED และมีการตอบรับที่ดีในวันนี้

นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WINMED เปิดเผยว่า จากการตอบรับที่ดีของนักลงทุนในวันซื้อขายวันแรกนี้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจที่จะสร้างการเติบโตของธุรกิจเพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่นักลงทุนที่เชื่อมั่นใจตัวของบริษัท โดยที่เงินที่ได้จาก IPO ราว 350 ล้านบาท จะนำมาใช้ลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self Collect) จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2/64 และก่อสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy) เริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/64 และจะนำไปชำระคืนหนี้ส่วนหนึ่ง ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทซึ่ลดลงต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.6 เท่า ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

ด้านเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 64 ตั้งเป้าเติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลและหน่วยงานของภาครัฐที่มีงบประมาณที่แน่นอน ได้มีออเดอร์การสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากโรงพยาบาลและหน่วยงานภาครัฐสูงถึง 75% ทำให้จะมีรายได้ที่แน่นอนเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในปีนี้ ส่วนกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลเอกชนที่ได้ชะลอตัวไปก็เริ่มกลับมาสั่งซื้อมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการลูกครั้ง แต่ถือว่ายังไม่มาก โดยที่สัดส่วนของกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลเอกชนมีสัดส่วนอยู่ที่ 25%

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ WINMED เปิดเผยว่า การตอบรับที่ดีของนักลงทุนในวันซื้อขายวันแรกของ WINMED เป็นความเชื่อมั่นในตัวบริษัทที่มีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจมากว่า 24 ปี และได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งธุรกิจของบริษัทถือว่าเป็นธุรกิจเฉพาะทางที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพสินค้าว่ามีมาตรฐานในระดับสูง ประกอบการมีทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในคตลาดที่ใหญ่และขยายตัวมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและให้การตอบรับเป็นอย่างดี

“ด้วยความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับ WINMED และสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และตอกย้ำความตั้งใจขของผู้บริหารที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับธุรกิจตลอดไป”นายสมศักดิ์ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top