นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนเม.ย.64 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.5 เทียบกับระดับ 47.5 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวลดลงทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต ในทุกภาคและทุกอาชีพ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงจากระดับ 40.2 มาอยู่ที่ระดับ 36.4 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต ปรับลดลงจากระดับ 52.3 มาอยู่ที่ระดับ 48.2
“ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือนเม.ย.64 ปรับตัวลดลงอีกครั้ง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่การลดลงของความเชื่อมั่นในครั้งนี้ ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าการลดลงในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุกช่วงที่ผ่านมา”
ผู้อำนวยการ สนค.กล่าว
หากจำแนกรายภูมิภาค จะพบว่าดัชนีลดลงในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากระดับ 47.5 มาอยู่ที่ระดับ 41.5 และภาคเหนือ ปรับตัวลดลงจากระดับ 45.8 มาอยู่ที่ระดับ 43.5 และเมื่อจำแนกรายอาชีพ ก็ลดลงทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มไม่ได้ทำงาน ปรับลดลงจากระดับ 42.9 มาอยู่ที่ระดับ 37.2 กลุ่มรับจ้างอิสระ ปรับลดลงจากระดับ 45.1 มาอยู่ที่ระดับ 41.0 เนื่องจากทั้งสองกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากที่สุด และมีความไม่มั่นคงในการดำรงชีพ ส่วนกลุ่มพนักงานของรัฐ ปรับลดลงจากระดับ 52.5 มาอยู่ที่ระดับ 49.6 เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และยังคงมีความเชื่อมั่นสูงกว่าทุกกลุ่ม
นายภูสิต ระบุว่า ทุกครั้งที่มีการระบาดของไวรัสโควิค-19 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับและต้องเข้าใจถึงความกังวลของบริโภค ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงเป็นเรื่องปกติ แต่การลดลงในครั้งนี้น้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เทียบกับการระบาดรอบแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.1, การระบาดในเดือนกรกฎาคม 2563 ดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 41.0 และการระบาดในเดือนมกราคม 2564 ดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.2 จะเห็นได้ว่าการระบาดในรอบนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“สาเหตุน่าจะมาจากการที่เรายังมีความหวังจากวัคซีน ซึ่งน่าจะทะยอยดำเนินการได้ต่อเนื่อง และสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากเครื่องชี้วัดต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ของรัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องน่าจะช่วยให้ประชาชนบางส่วนยังเชื่อมั่น”
นายภูสิต กล่าว
พร้อมคาดหวังว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดให้กลับเข้าสู่ระดับก่อนการระบาดได้โดยเร็ว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจอันเข้มแข็ง และแนวโน้มการฟื้นตัวที่มีสัญญานดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงก่อนการระบาด ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลากหลายรูปแบบ น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศกลับเข้าสู่ทิศทางเดิมและพร้อมจะขยายตัวได่อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ภูสิต รัตนกุล, สนค., เศรษฐกิจไทย