นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 65 รวมถึงยังให้ความสำคัญในการขยายโครงการแนวราบต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งถือเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจากกำลังซื้อที่แท้จริง เห็นได้จากยอดขาย ทาวน์โฮมแบรนด์ เอเวอร์ ซิตี้ และบ้านเดี่ยวแบรนด์ มายโฮม ซิลเวอร์เลค ในช่วงที่ผ่านมาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่
“แม้จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่บริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือ และออกมาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งพนักงาน ผู้รับเหมา และลูกบ้าน เช่นเดียวกับปีก่อน อีกทั้งมีการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ http://everland.co.th เพื่อกระตุ้นยอดขาย”
นายสวิจักร์ กล่าว
สำหรับแผนเปิดขายโครงการแนวราบในปีนี้ ประกอบด้วย ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้ โครงการสุขสวัสดิ์ 30 – พุทธบูชา 4 จำนวน 98 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท และการเปิดขายบ้านเดี่ยวแบรนด์ มายโฮม ซิลเวอร์เลค ในโครงการซิลเวอร์เลค พาร์ค เฟส 2 เพิ่มอีกจำนวน 27 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท จากที่เปิดขายไปในปีก่อน 40 ยูนิต จากทั้งหมด 67 ยูนิต ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5-9 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าในปี 64 โครงการแนวราบยังเติบโตได้ดี เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แท้จริง โดยโครงการที่อยู่อาศัยของเราเน้นความคุ้มค่า ขนาดของโครงการไม่ใหญ่มาก เพื่อให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น รวมถึงการจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นโครงการแนวสูง หรือแนวราบ
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 410 ล้านบาท หรือ 92% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 444 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 46.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.87 ล้านบาท หรือ 135% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 19.87 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)
Tags: EVER, ทาวน์โฮม, ที่อยู่อาศัย, สวิจักร์ โลจายะ, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, เอเวอร์แลนด์, โครงการแนวราบ