เช้านี้ หุ้นขนาดเล็กยอดฮิตของนักลงทุนในการเข้าเล่นเก็งกำไรในช่วงโควิดระบาดหนักในประเทศ โดยหุ้นเล็กที่ราคาพุ่งแรง-เทรดคึกคัก นำโดยหุ้น CNT พุ่ง 29.55% ปิดเช้าที่ 2.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.52 บาท มูลค่าซื้อขาย 25.76 ล้านบาท
หุ้น INGRS พุ่ง 13.04% ปิดเช้าที่ 0.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 49.77 ล้านบาท
หุ้น NWR พุ่ง 12.20% ปิดเช้าที่ 0.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 221.89 ล้านบาท
หุ้น KKC พุ่ง 11.38% ปิดเช้าที่ 1.37 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 33.74 ล้านบาท
หุ้น INOX พุ่ง 9.09% ปิดเช้าที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท มูลค่าซื้อขาย 290.17 ล้านบาท
หุ้น TSTH พุ่ง 8.26% ปิดเช้าที่ 2.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าซื้อขาย 864.95 ล้านบาท
หุ้น COTTO พุ่ง 5.26% ปิดเช้าที่ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 777.97 ล้านบาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า จากที่ Fund Flow ไม่ไหลเข้าไทย ทำให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งไซด์เวย์ จากแรงขับเคลื่อนที่เป็นเม็ดเงินลงทุนภายในประเทศที่เข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ขณะที่กลุ่ม Domestic plays ยังโดนกดดันจากการการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนหุ้นกลุ่ม Global plays ก็ยังมีแรงเก็งกำไรตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดี หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนดีขึ้น
ทั้งนี้ หากนักลงทุนที่เข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ก็ต้องรู้จักประเมินความเสี่ยงของตัวเองด้วย ซึ่งการเล่นหุ้นขนาดเล็กก็ควรจะมีปัจจัยพื้นฐานรองรับด้วย
พร้อมมองหุ้นที่น่าลงทุนในเดือนพ.ค.เป็นหุ้น บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) และบมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 64)
Tags: กรภัทร วรเชษฐ์, หุ้นขนาดเล็ก, หุ้นไทย, เก็งกำไร