สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หาแนวทางผลักดันให้เวียดนามยกเลิกการเก็บภาษีเนื้อหมูนำเข้าจากสหรัฐ รวมถึงมาตรการกีดกันอื่นๆ หลังจากที่สหรัฐจับตาเวียดนามเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินและแนวทางปฏิบัติด้านการค้า
ทั้งนี้ จดหมายที่สมาชิกสภาคองเกรสทั้ง 72 คนจากทั้งสองพรรคยื่นต่อนางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) ระบุว่า ผู้ผลิตเนื้อหมูในสหรัฐไม่สามารถส่งออกเนื้อหมูไปยังประเทศเวียดนามได้มากนัก แม้ว่าฟาร์มสุกรในเวียดนามได้รับความเสียหายจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรซึ่งทำให้มีความต้องการเนื้อหมูนำเข้าเพิ่มขึ้นก็ตาม
จดหมายดังกล่าวระบุอีกว่า “การเก็บภาษีที่สูง รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าที่นอกเหนือจากภาษี ส่งผลให้เนื้อหมูจากสหรัฐไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในเวียดนามได้ แม้ว่าเวียดนามจะหาแหล่งนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศที่ไว้วางใจได้ก็ตาม ส่งผลให้คู่แข่งของเราจากสหภาพยุโรปและประเทศที่เข้าร่วมในความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) มีความได้เปรียบที่จะตักตวงโอกาสอันมหาศาลนี้โดยอาศัยข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม”
สมาชิกสภาคองเกรสกลุ่มดังกล่าวยังระบุว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ยากลำบากมากสำหรับผู้ผลิตเนื้อหมูในสหรัฐ เนื่องจากต้องเผชิญกับการตอบโต้ทางการค้าจากประเทศปลายทางสำคัญที่สหรัฐส่งออกเนื้อหมู” รวมถึงอุปสรรคจากการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ เวียดนามได้กำจัดสุกรในประเทศไปแล้วกว่า 2 ล้านตัว และนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 64)
Tags: USTR, พรรครีพับลิกัน, พรรคเดโมแครต, ภาษี, ภาษีนำเข้า, สภาคองเกรส, สหรัฐ, เนื้อหมู, เวียดนาม, แคทเธอรีน ไท่, โจ ไบเดน, โรคอหิวาต์แอฟริกา