สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานผลการศึกษาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (6 พ.ค.) ยืนยันว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่า 95% อย่างไรก็ดี ผลการทดลองล่าสุดนี้พบว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อผู้รับวัคซีนได้รับเพียงโดสเดียวจากทั้งหมดสองโดสตามคำแนะนำ
คณะผู้ทำการวิจัยจากหน่วยงานวัคซีนแห่งชาติของอิสราเอลระบุว่า ผลการศึกษาจากการใช้งานจริง (Real-World Study) ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดอาจจะสิ้นสุดลงหากโครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสาธารณสุขจากอิสราเอลยังระบุด้วยว่า วัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทคมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 แม้ในผู้สูงอายุที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ในช่วงต้นเดือนเม.ย. มีชาวอิสราเอลเกือบ 5 ล้านคนได้รับวัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทคจำนวนสองโดสแล้ว ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนมากกว่า 70% ของจำนวนประชากรในประเทศ
ผลการศึกษาระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทคสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ถึง 95.3% สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดส และสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้มากถึง 96.7% หลังจากได้รับวัคซีนโดสที่สองเป็นเวลาเจ็ดวัน
หลังจาก 14 วันผ่านไปแล้ว ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นเป็น 96.5% และประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 98%
อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลงเมื่อผู้ป่วยได้รับวัคซีนเพียงโดสเดียว
ในระยะเวลา 7-14 วันหลังได้รับวัคซีนโดสแรก ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 จะอยู่ที่ 57.7% และประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 77%
อย่างไรก็ตาม ทีมงานวิจัยดังกล่าวระบุว่า พวกเขาไม่สามารถศึกษาถึงผลกระทบของไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ ซึ่งไวรัสชนิดนี้ถูกตรวจพบในอิสราเอลเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 64)
Tags: COVID-19, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, อิสราเอล, โควิด-19, ไฟเซอร์-บิออนเทค