สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ว่า จำนวนของรถยนต์ไฟฟ้า, รถโดยสารไฟฟ้า, รถตู้ไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้าบนท้องถนนจะอยู่ที่ระดับ 145 ล้านคันในปี 2573
IEA เปิดเผยรายงานแนวโน้มยานพาหนะไฟฟ้าทั่วโลกระบุว่า หากรัฐบาลต่างๆ เพิ่มการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปเป้าหมายระดับโลกด้านพลังงานและสภาพอากาศ จำนวนยานพาหนะไฟฟ้าก็อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้น โดยอาจแตะระดับ 230 ล้านคันในปี 2573 ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์ทั้งสองนั้นรวมถึงยานพาหนะประเภท 2 ล้อและ 3 ล้อด้วย
IEA ระบุว่า ในปี 2563 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าราว 3 ล้านคัน ซึ่งเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้านี้ ทำให้ขณะนี้มีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนรวมกว่า 10 ล้านคัน และในจำนวนนี้มีรถโดยสารไฟฟ้า, รถตู้ไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้าอยู่ราว 1 ล้านคัน
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ทะยานขึ้นในปี 2563 สวนทางกับการหดตัวลง 16% ของตลาดรถยนต์ทั่วโลกอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2564 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังพุ่งขึ้นเกือบ 2.5 เท่าของไตรมาส 1/2563
“ถึงแม้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ใช่องค์ประกอบหนึ่งเดียว แต่ก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการไปถึงเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก” นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของ IEA กล่าว
นอกจากนี้ นายไบรอลยังแนะนำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 เพื่อลงทุนในภาคการผลิตแบตเตอรี่และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบชาร์จพลังงานที่ครอบคลุมและวางใจได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 64)
Tags: IEA, ยานยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า, รถอีวี, สำนักงานพลังงานสากล