บริษัททวิตเตอร์เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 16 เซนต์ ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 14 เซนต์ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 68 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับในไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุน 8.4 ล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1.04 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.03 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ใช้งานรายวันของทวิตเตอร์อยู่ที่ 199 ล้านราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 200 ล้านราย
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์คาดว่า รายได้ในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 980 ล้านดอลลาร์ – 1.08 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.06 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุถึงผลกระทบจากการที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 กำหนดว่าผู้ใช้งานต้องให้ความยินยอมก่อนที่แอปพลิเคชันต่างๆ จะสามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้งานในบริการและเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อเป้าหมายด้านการโฆษณา
แอปเปิลออกแถลงการณ์เมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.ว่า “เงื่อนไขและหลักเกณฑ์การปฎิบัติในการใช้แอปสโตร์ของแอปเปิลนั้นจะบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันกับบรรดาบริษัทพัฒนาแอปพลิเคชันทั่วโลก ซึ่งรวมถึงแอปเปิลด้วย เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ใช้งานจะถูกถามเพื่อขออนุญาตก่อนที่จะถูกติดตามข้อมูลการใช้งาน หากเราพบว่ามีแอปพลิเคชันใดที่ไม่เคารพการตัดสินใจของผู้ใช้งาน เราจะแบนแอปพลิเคชันนั้นทันที”
ด้านเฟซบุ๊กและบริษัทอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาการโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างก็กังวลว่า อาจมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ไม่อนุญาตให้ติดตามข้อมูล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของแอปพลิเคชันเหล่านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 64)
Tags: ทวิตเตอร์, ผลประกอบการ, รายได้, เฟซบุ๊ก, แอปพลิเคชัน, แอปสโตร์, แอปเปิล อิงค์