รายงานจากสภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยในวันนี้ว่า อุปสงค์ทองคำโลกในไตรมาส 1/2564 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากการลงทุนในทองที่ร่วงลงมากกว่า 70% เมื่อเทียบรายปี
- อุปสงค์ทองคำโลกทั้งหมดในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 815.7 เมตริกตัน ลดลง 23% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 แม้ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับในไตรมาส 4/2563
- อุปสงค์ทองคำในภาคการลงทุน ร่วงลง 71% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 1 แตะที่ 161.5 เมตริกตัน เนื่องจากกองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำได้เทขายทองคำ 177.9 เมตริกตัน เทียบกับไตรมาส 1/2563 ซึ่งซื้อทองคำ 299.1 เมตริกตัน
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า แรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยหนุนการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำ เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 339.5 เมตริกตัน
ด้านอุปสงค์ทองคำในเครื่องประดับ ปรับตัวขึ้น 52% ในไตรมาส 1/2564 เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 477.4 เมตริกตัน โดยมีอินเดียและจีนเป็นชาติที่เข้าซื้อเครื่องประดับทองคำมากที่สุด
ทั้งนี้ อุปสงค์เครื่องประดับจากจีนนั้น เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า หรือทะยานขึ้น 212% แตะที่ 191.1 เมตริกตัน ซึ่งเป็นระดับรายไตรมาสสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 โดยได้แรงหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น บวกกับราคาทองคำที่ลดต่ำลง และยอดขายที่พุ่งขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน, วาเลนไทน์ และวันสตรีสากล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 64)
Tags: WGC, จีน, ทองคำ, ราคาทอง, สภาทองคำโลก, อินเดีย