SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด (+1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 94,645.25 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาดจากความหวังภาครัฐคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศได้หลังกลับมารวมศูนย์อำนาจไว้ที่นายกฯและจำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวในทิศทางลดลง โดยวันนี้กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นนำตลาด รับแรงหนุนเก็งถ้อยแถลงประธานเฟดคง QE และเก็งงบกลุ่ม Real Sector ออกมาดีหลังกำไร SCGP, PTTEP ดีกว่าคาด ด้านตลาดต่างประเทศบางตลาดได้รับแรงกดดันจาก Bond yield ขยับขึ้นกดดันกลุ่มเทคโนโลยี พรุ่งนี้ตลาดฯยังมีลุ้นขึ้นไปต่อได้หากไม่มีปัจจัยลบ ให้แนวต้าน 1,580 หากทะลุได้จะขึ้นไปทดสอบ 1,600 อีกครั้ง ส่วนแนวรับ 1,565 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด (+1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 94,645.25 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,578.62 จุด และระดับต่ำสุด 1,562.84 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,021 หลักทรัพย์ ลดลง 613 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 455 หลักทรัพย์
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าคาด จากความคาดหวังว่าภาครัฐจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้มากขึ้นหลังจากกลับมารวมศูนย์อำนาจสั่งการที่นายกรัฐมนตรี และจำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวในทิศทางลดลงด้วย
วันนี้หุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นนำตลาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มสินค้าเกษตร ปรับขึ้นมาหนุนตลาดฯ ในช่วงรอฟังถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดว่าจะคงการทำ QE ต่อไป หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวขึ้นได้ดี
นอกจากนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector อย่าง SCGP และ PTTEP ประกาศงบฯออกมาดีกว่าคาด ทำให้งบฯไตรมาส 1/64 ของกลุ่ม Real Sector มีทิศทางที่ค่อนข้างดี หลังจากกลุ่มแบงก์ออกมาดีแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ โดยตลาดเอเชียเหนือติดลบ อย่าง ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และตลาดหุ้นไต้หวัน เนื่องจากมีน้ำหนักของกลุ่มเทคโนโลยีมาก และในช่วง 1-2 วันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ได้ขยับขึ้นมากดดันกลุ่มเทคโนโลยี อีกทั้งกลุ่มนี้ก็มี Valuation สูงด้วย ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ส่วนใหญ่แกว่งบวก อย่างตลาดหุ้นเยอรมัน และตลาดหุ้นอังกฤษ ด้านดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบเล็กน้อยรับผลจาก Bond yield ขยับขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์โควิด พร้อมให้แนวต้าน 1,580 จุด หากทะลุได้จะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 จุดอีกครั้ง ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,565 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ASW มูลค่าการซื้อขาย 4,213.85 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,942.01 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,334.26 ล้านบาท ปิดที่ 452.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,321.32 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,272.54 ล้านบาท ปิดที่ 4.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, สุโชติ ถิรวรรณรัตน์, หุ้นไทย, เคจีไอ