น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 2,256.14 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารที่ค้างชำระ
เนื่องจากจำนวนเฉลี่ยผู้ต้องขัง ผู้ต้องกักขัง และผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ที่กรมราชทัณฑ์ต้องควบคุมดูแลมีจำนวนมากกว่างบประมาณที่กรมราชทัณฑ์ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 4,322.28 ล้านบาท ประกอบกับกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของรายการอื่นที่คงเหลือเบิกจ่ายสมทบแล้ว แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายจริงจึงทำให้ยังคงมีหนี้ค่าวัสดุอาหารค้างจ่ายอีกจำนวน 2,256.14 ล้านบาท
ทั้งนี้พบว่าสถิติจำนวนผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2553 มีจำนวนผู้ต้องขัง 102,210 ราย ขณะที่ปี 2563 มีจำนวน 357,968 ราย
อย่างไรก็ตาม ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเมินผลการดำเนินการตามแนวทางต่างๆ ในการลดจำนวนผู้ต้องขัง ผู้ต้องกักขัง และผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ และนำแนวทางที่พบว่ามีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพไปขยายผลในการปฏิบัติให้มากขึ้น รวมทั้งให้พิจารณากำหนดมาตรการการลงโทษในรูปแบบอื่นนอกจากโทษจำคุก หรือปรับปรุงมาตรการเดิมเพื่อให้สามารถลดจำนวนผู้ต้องขัง ผู้ต้องกักขัง และผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ได้มากยิ่งขึ้นและมีความยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 64)
Tags: กรมราชทัณฑ์, ก่อหนี้ผูกพัน, คณะรัฐมนตรี, ครม., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานศาลยุติธรรม, ไตรศุลี ไตรสรณกุล