หุ้นไทยปิดเช้าบวก 5.71 จุด อัพไซต์จำกัดหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดตายเพิ่ม

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,565.24 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขายราว 50,346 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นขานรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศทรงตัวต่อเนื่องมา 2 วัน และน่าจะผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว แต่ upside จำกัดหลังจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จึงยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากนี้รอติดตามผลประชุม FOMC วันที่ 27-28 เม.ย.นี้ รวมถึงการทยอยประกาศงบฯ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบวิตกปัญหาโควิด โดยเฉพาะญี่ปุ่นกลับมาล็อกดาวน์ บ่ายนี้ตลาดฯคงยังผันผวน ให้แนวรับ 1,550-1,540 แนวต้าน 1,570-1,575 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,565.24 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขายราว 50,346 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,570.58 จุด และระดับต่ำสุด 1,558.75 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น ขานรับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศทรงตัวในทิศทางลดลงต่อเนื่องมา 2 วัน แต่ upside ตลาดฯยังจำกัดหลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จึงทำให้ยังต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ ยังรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาสหรัฐ (FOMC) วันที่ 27-28 เม.ย.นี้ด้วย ซึ่งตลาดมองว่าน้าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการทำ QE ตามเดิม แต่ต้องจับตาการส่งสัญญาณจากเฟดเกี่ยวกับมุมมองด้านเศรษฐกิจ ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ หลังจากยังมีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นถึงขั้นกลับมาล็อกดาวน์เข้มงวดอีกรอบ

สำหรับนายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่น่าจะผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้ง SCGP, DELTA, BH และ SCC คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มมองการเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้อง อย่างหุ้น SCC คาดงบฯจะออกมาดี และยังมีแรงเข้าซื้อหุ้นอื่นในกลุ่มปิโตรเคมีด้วย อย่าง IRPC, IVL และ PTTGP วันนี้บรรยากาศโดยรวมจึงเป็นลักษณะเก็งกำไร

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง 0.1-0.5% รอผลประชุม FOMC โดยตลาดคาดว่าคงจะยังดำเนินนโยบายการผ่อนคลาย แต่ต้องติดตามการส่งสัญญาณต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

ส่วนบ้านเราในพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) นายกรัฐมนตรีจะประชุมร่วมกับภาคเอกชนเรื่องการจัดหาและกระจายวัคซีน ประกอบกับติดตามว่ากระทรวงการคลังอาจจะปรับประมาณอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้อย่างไร

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงยังผันผวน โดยมีแนวรับ 1,550-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570-1,575 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,752.12 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 2.25 บาท

BFIT มูลค่าการซื้อขาย 2,191.68 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,677.22 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,074.88 ล้านบาท ปิดที่ 387.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

GJS มูลค่าการซื้อขาย 966.53 ล้านบาท ปิดที่ 0.53 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top