นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ปัจจุบันสายด่วนเพื่อให้ประชาชนสอบถามข้อมูลสำหรับผู้ติดเชื้อที่ต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีอยู่ 3 สาย คือ 1668 ของกรมการแพทย์, 1669 ของศูนย์แพทย์ฉุกเฉิน กทม.-ศูนย์เอราวัณ และ 1330 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ-สปสช. นั้น ได้มีการหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้กลไกการประสานงานให้มากที่สุดทั้ง 3 สายด่วน รวมทั้งได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข และตั้งเป้าว่าจะต้องประสานหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ทีมงานจิตอาสาสายด่วนทั้ง 3 สาย ทำงานอย่างหนักข้ามวันข้ามคืนอย่างไม่มีวันหยุด ทุกท่านที่ปฎิบัติหน้าที่รับสายคือจิตอาสาที่เป็นแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้น เพื่อคลายความกังวลใจแก่ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ แม้ทุกท่านมีงานประจำที่ต้องปฏิบัติเป็นจำนวนมาก แต่ก็อาสาเข้ามาทำงานสายด่วนดังกล่าวโดยไม่มีวันหยุด ทั้งยังยินดีให้โอนสายเรียกเข้าต่าง ๆ เข้าหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของตนเอง จึงอยากจะขอกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ด้วย และที่เพิ่มเติมคือได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่รมว. อว. ได้สั่งการให้คณบดีโรงเรียนแพทย์ของ อว. ช่วยคัดนิสิตนักเรียนแพทย์ที่มีความพร้อมมาช่วยรับโทรศัพท์ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ หมายเลขสายด่วนยังได้เพิ่มจำนวนคู่สายให้มากขึ้น พร้อมดึงเจ้าหน้าที่จากผลัดดึกซึ่งมีจำนวนสายเบาบางกว่า มาระดมช่วยช่วงเวลา 08.00-16.00 น. ที่มีปริมาณสายเข้าหนาแน่น และเตรียมจัดจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเป็นการเฉพาะกิจเพื่อประสานงานช่วยเหลือในการรับผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ โดยทำการอบรมให้ความรู้ด้านการแพทย์ที่เกี่ยวข้องก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สามารถตอบข้อซักถาม คัดกรองอาการ และแนะนำผู้ป่วยได้ คาดว่าการให้บริการประชาชนที่โทรเข้ามา จะมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับในช่วงที่มีสายโทรแจ้งจากผู้ป่วยโควิดเข้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีรับเรื่องและขอชื่อ/หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้ทีมประสานรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะให้เร่งติดต่อกลับเพื่อประสานรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีคู่สายว่างเพียงพอผู้ที่จะต่อสายที่โทรเข้ามาใหม่ ขณะเดียวกันก็สามารถรับผู้ติดเชื้อไปส่งยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ได้เร็วยิ่งขึ้น และระหว่างรอเตียงจะโทรแจ้งความคืบหน้าและติดตามอาการทุกๆ 6 ชั่วโมง หากอาการแย่ลงจะส่งรถไปรับมารักษาในโรงพยาบาลทันที
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนยังไม่สามารถติดต่อหมายเลขสายด่วนได้ ขอให้ติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยการเพิ่มเพื่อนในไลน์ที่ ID : @sabaideebot หรือที่ สบายดีบอต และกรอกข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วยโควิดในการประสานติดต่อเจ้าหน้าที่อีกทาง ซึ่งกรมการแพทย์ได้ยืนยันว่ามีการปรับปรุงระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้การแอดไลน์เพิ่มเพื่อน กับ สบายดีบอต มีระบบบริการในการจองเตียง ค้นหาเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 มีทีมงานในการช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 64)
Tags: COVID-19, กรมการแพทย์, ศูนย์แพทย์ฉุกเฉิน, สบายดีบอท, สปสช., สายด่วน, อนุชา บูรพชัยศรี, โควิด-19