ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (26-30 เม.ย.) ไว้ที่ 31.20-31.60 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, ดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือน มี.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย., ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือน มี.ค.ของ ธปท., สถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศและทั่วโลก, กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.ของจีน และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ของยูโรโซนด้วย
โดยเมื่อวันศุกร์ (23 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.37 บาท/ดอลลาร์ และในรอบ 1 สัปดาห์แตะระดับอ่อนค่าสุดที่ 31.44 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศระลอกสาม ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงท้ายๆ สัปดาห์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อข้อเสนอแผนการปรับขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ซึ่งสะท้อนสัญญาณการทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 64)
Tags: KBANK, ค่าเงินบาท, ธนาคารกสิกรไทย, เงินบาท