JMT เผยสนใจเข้าประมูลซื้อพอร์ตหนี้ NPL จากซิตี้แบงก์ในไทย

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างติดตามการขายหนี้ NPL ของทางซิตี้ แบงก์ หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ปประกาศความชัดเจนในการยกเลิกธุรกิจรายย่อยใน 13 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งบริษัทมองโอกาสการเข้าซื้อหนี้มาบริหารได้เพิ่มเติม แต่ยังคงต้องรอความชัดเจนจากซิตี้ แบงก์ ประเทศไทยว่าจะมีการขายออกมาอย่างไร และมีเงื่อนไขอย่างไร เหมือนกับในช่วงสแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ ขายพอร์ตรายย่อยออกมาครั้งก่อน

บริษัทมองว่าพอร์ตหนี้ของซิตี้ แบงก์ ประเทศไทย มีขนาดใหญ่ เนื่องจากดำเนินธุรกิจในไทยมาค่อนข้างนาน จึงมีพอร์ตบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ จำนวนมาก หากซื้อเข้ามาได้ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยทำให้พอร์ตการบริหารหนี้ของบริษัทสามารถเติบโตขึ้นได้มาก และช่วยหนุนการเติบโตของธุรกิจ

โดยหากนับเฉพาะพอร์ตหนี้ที่ไม่มีหลักประกันที่บริษัทบริหารมีอยู่ราว 2 แสนล้านบาท จากพอร์ตรวม 2.7 แสนล้านบาท หากได้หนี้จากทางซิตี้ แบงก์ ประเทศไทยมาเพิ่ม คาดว่าจะเห็นการเติบโตของพอร์ตหนี้อย่างมีนัยสำคัญ

“ก็ยังรอดูความชัดเจนและรายละเอียกจากทางซิตี้ แบงก์ ก่อนว่าจะขายอะไรออกมาบ้าง มีเงื่อนไขอย่างไร เราก็พร้อมที่จะเข้าไปรับหนี้เข้ามาบริหาร เพราะหนี้ของซิตี้ แบงก์ กลุ่มลูกค้าเขาก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ดี และหากได้เข้ามาก็น่าจะเป็นพอร์ตที่ใหญ่เข้ามาช่วยเติมพอร์ตของ JMT ให้โตขึ้นได้มาก”นายสุทธิรักษ์ กล่าว

นายสุทธิรักษ์ ยืนยันว่า มีความพร้อมในการเข้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม โดยบริษัทวางงบการเข้าซื้อหนี้ในปี 64 ไว้ที่ 6,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/64 ใช้เงินเข้าซื้อหนี้จากสถาบันการเงินมาแล้วกว่า 1 พันล้านบาท และในช่วงไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเข้าซื้อหนี้เข้ามาเพิ่มอีก 2 ล็อต ขณะที่มองว่าหลังจากเกิดโควิด-19 ระลอก 3 ทำให้มีโอกาสที่สถาบันการเงินจะนำหนี้ออกมาขายมากขึ้นเพื่อลด NPL ลง รองรับกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น คาดว่าส่วนใหญ่การเปิดขายหนี้กระจุกตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้

อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดประมูลนำหนี้ออกมาขายเป็นจำนวนมาก บริษัทยังมีความพร้อมในการหาแหล่งเงินทุนมารองรับเพิ่มเติม อย่างเช่น การออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นหนึ่งไนแนวทางที่บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมไว้สำหรับโอกาสที่จะเข้ามา โดยที่การบริหารหนี้เพิ่มส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นตามไปด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top