ดร.ออซเล็ม ตูเรซี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ (CMO) ของบริษัทบิออนเทคได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสแล้วนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องฉีดวัคซีนโดสที่สาม เนื่องจากภูมิคุ้มกันจะลดลง ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นด้วยกับน.พ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ที่เคยพูดถึงประเด็นดังกล่าวก่อนหน้านี้
ดร.ตูเรซี ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CMO ของบริษัทบิออนเทค ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วมกับบริษัทไฟเซอร์คาดว่า ประชาชนจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกับไข้หวัดตามฤดูกาล เนื่องจากภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนนั้นจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
“เรามีข้อบ่งชี้ถึงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่ลดลง ขณะเดียวกันภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติต่อโรคโควิด-19 ก็ลดลงได้เช่นกัน” ดร.ตูเรซีอธิบายขณะให้สัมภาษณ์ในรายการ The Exchange ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี และเพิ่มเติมว่า “เราสามารถพบกรณีการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ลดลงในผู้ที่เพิ่งรับเชื้อโควิด-19 และคาดว่ารวมถึงในผู้ที่รับวัคซีนแล้วด้วย”
ทั้งนี้ ดร.ตูเรซีแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่น.พ.เบอร์ลาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า ประชาชนมีแนวโน้มที่จะต้องฉีดวัคซีนเสริมหรือวัคซีนโดสที่สามภายในช่วง 12 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว โดยน.พ.เบอร์ลายังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ประชาชนมีแนวโน้มที่จะต้องฉีดวัคซีนทุกปีด้วย
ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ได้ระบุว่า วัคซีนที่บริษัทผลิตมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่า 91% และมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการที่รุนแรงจากโรคได้มากกว่า 95% เป็นเวลานานถึง 6 เดือน เมื่อได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 64)
Tags: CMO, COVID-19, บิออนเทค, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, ออซเล็ม ตูเรซี, อัลเบิร์ต เบอร์ลา, โควิด-19, ไฟเซอร์