นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย (NPS) เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ให้ประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยให้สิทธิผู้ออกหุ้นกู้ในการไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด มูลค่าไม่เกิน 5,500 ล้านบาท เสนอขายไม่เกิน 5.5 ล้านหน่วย แบ่งหุ้นกู้ออกเป็น 3 ชุด วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองอีก 500 ล้านบาท
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 1,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.35% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570
ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดมีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายรวมกันไม่เกิน 500 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาจองซื้อหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2564 และ 10-11 พฤษภาคม 2564
วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนด และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 13 ราย ได้แก่
- บล.โกลเบล็ก
- บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
- บล.โนมูระ พัฒนสิน
- บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
- บล.เคทีบีเอสที
- บล.เอเชียพลัส
- บล.กรุงไทย ซีมิโก้
- บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์
- บล.ฟินันเซีย ไซรัส
- บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย)
- บล.ทรีนิตี้
- บล.ไอร่า
- บล.เอเอสแอล
นายโยธิน กล่าวว่า NPS ได้แถลงผลการดำเนินงานในปี 63 ว่ามีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นในทุกด้าน โดยเฉพาะกำไรสุทธิ และ EBITDA สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มประกอบธุรกิจ โดย NPS มีรายได้รวมอยู่ที่ 15,745 ล้านบาท มี EBITDA อยู่ที่ 4,621 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 13.83%
“การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ NPS สวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขณะนี้เกิดการระบาดเป็นระลอก 3 แล้วนั้น เกิดจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม 304 ซึ่งมีทั้งความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มของลูกค้ารายเก่าและการลงทุนเพิ่มขึ้นของลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อาทิ การนำ Digital Technology หลากหลายรูปแบบเข้ามาช่วยในการทำงาน การยกระดับระบบบัญชีและการเงินให้ทันสมัย โปร่งใส ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ NPS เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”นายโยธิน กล่าว
หุ้นกู้ NPS ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 เพิ่มจากระดับ BBB- เป็น BBB และแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” อันสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทได้รับจากการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสัดส่วนหนี้สินที่ลดลง นอกจากนั้นยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ ในฐานะผู้ให้บริการพลังงานและสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมแบบครบวงจร และเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 เม.ย. 64)
Tags: NPS, หุ้นกู้, หุ้นไทย, เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย, โยธิน ดำเนินชาญวนิชย์