สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (FAI) ไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 25.6% แตะที่ 9.6 ล้านล้านหยวน (ราว 1.47 ล้านล้านดอลลาร์)
ยอด FAI ของจีนเติบโตในระดับเลขสองหลัก โดยได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งการระบาดของโรคส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับระดับในปี 2562 ยอด FAI เพิ่มขึ้น 6%
รายงานระบุว่า ยอด FAI ของภาครัฐในช่วงไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 25.3% ขณะที่ยอด FAI ในภาคเอกชนขยับขึ้น 26%
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอด FAI เพิ่มขึ้น 1.51% ในเดือนมี.ค.
เมื่อแยกเป็นรายภาคส่วนอุตสาหกรรมพบว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมปฐมภูมิเพิ่มขึ้น 45.9% ขณะที่การลงทุนในอุตสาหกรรมทุติยภูมิเพิ่มขึ้น 27.8% ส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมตติยภูมิเพิ่มขึ้น 24.1%
การลงทุนสินทรัพย์ถาวรในอุตสาหกรรมไฮเทคดีดตัวขึ้น 41.6% ขณะที่การลงทุนในภาคบริการ พุ่งขึ้น 28.6% เมื่อเทียบรายปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงทุน FAI ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายด้านทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร และสินทรัพย์ที่จับต้องได้ประเภทอื่นๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 64)
Tags: การลงทุน, จีน, สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน, สินทรัพย์ถาวร