กทม.ย้ำผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงให้เข้าระบบคัดกรอง BKK COVID-19

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับจากจังหวัดต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 จึงขอความร่วมมือประชาชนผู้เดินทางไปจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ให้ประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองผ่านระบบคัดกรอง BKK COVID-19 ที่ เว็บไซ์ BKK COVID-19  ซึ่งเป็นระบบที่กรุงเทพมหานครจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกข้อมูลผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนโรคของเจ้าหน้าที่เ พื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น และใช้เวลาในการกรอกข้อมูลไม่นาน โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน ได้แก่ การสแกน QR CODE จากนั้นกรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือ ระบุเพศ และสัญชาติ จากนั้นกรอกข้อมูลการเดินทาง อาทิ เดินทางมาจากจังหวัดใด เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครหรือผ่านไปจังหวัดอื่น ในกรณีเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ระบุการเดินทางเที่ยวเดียวหรือไปกลับ ระบุเขตและวันเดินทางกลับ พร้อมเหตุผลความจำเป็น จากนั้นแสดงข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่ด่านคัดกรอง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

“หากระบบแจ้งว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ขอแนะนำให้สังเกตตัวเองอย่างน้อย 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ หากระบบแจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่ติดต่อไปโดยเร็วที่สุดเพื่อสอบสวนอาการ รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ไป SWAB ตามจุดนัดหมายที่สะดวกทันที หากผลตรวจเป็นผู้ติดเชื้อ จะทำการรักษาตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว

โดยประชาชนสามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์สายด่วน ที่ใช้สำหรับอำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้ดังนี้

  • สายด่วน สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร 0-2203-2393 หรือ 0-2203-2396 หรือ 0-2245-4964 และ 097-046-7549 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
  • สายด่วน Website BKK COVID-19 0-2203-2393 และ 0-2203-2396 ให้บริการเวลา 08.00 – 20.00 น.
  • สายด่วนผู้ที่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์โรคโควิด-19 ติดต่อศูนย์เอราวัณ กทม. 1646
  • แจ้งข้อมูลผู้ที่คาดว่าได้สัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (EOC) 094-386-0051
  • สายด่วนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 1422

รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัตินตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล D-M-H-T-T-A ประกอบด้วย

  • D – Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น
  • M – Mask wearing สวมหน้ากากหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา
  • H – Hand washing ล้างมือบ่อยๆ
  • T – Temperature Check ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
  • T – Testing ตรวจหาเชื้อโควิด-19
  • A – Application ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และ “ไทยชนะ” อย่างเคร่งครัด

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด กรุงเทพมหานครยังได้พิจารณาสั่งการให้ข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานครปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามที่ทางราชการกำหนด (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาในทุกกิจกรรมอย่างเคร่งครัด ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงทะเบียนก่อนเข้า-ออกสถานที่ ด้วยแอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด เช่น ไทยชนะ หมอชนะ ให้บุคลากรงดเว้นการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง บุคลากรที่เคยไปพื้นที่เสี่ยงให้กักกันตนเองอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่สาธารณะ

รวมถึงให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร พิจารณาการเหลื่อมเวลาทำงาน จัดประชุม การเรียน การอบรม ในรูปแบบ Online เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค และให้มีการพิจารณาการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) อย่างเต็มขีดความสามารถ จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 64 เป็นอย่างน้อยตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top