จีนออกโรงเรียกร้องญี่ปุ่นไม่ให้ปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในฟูกูชิมะลงสู่มหาสมุทร “โดยไม่ได้รับอนุญาต” จากประเทศอื่นๆ และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) พร้อมทั้งเรียกร้องสหรัฐให้ปฏิบัติต่อเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริง อย่าเลือกข้าง
จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งวันนี้ว่า “จีนขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตอบโต้การตัดสินใจของญี่ปุ่นในวันนี้ที่จะปล่อยน้ำปนเปื้อนที่ผ่านการบำบัดลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกภายในระยะเวลาสองปี”
นายจ้าวกล่าวว่า หน่วยงานระหว่างประเทศและบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างชี้ว่าการปล่อยน้ำปนเปื้อนทริเทียมจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่มหาสมุทรจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและสาธารณสุขของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับเสริมด้วยว่า น้ำที่ผ่านการบำบัดยังคงปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอื่นๆ และจำเป็นต้องได้รับการบำบัดและทำให้บริสุทธิ์เพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐสนับสนุนการตัดสินใจของญี่ปุ่น และเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นได้ทำการทดสอบทางเลือกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดน้ำแล้ว นอกจากนี้ สหรัฐยังมองว่า การตัดสินใจของญี่ปุ่นในครั้งนี้มีความโปร่งใส และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ที่ปฏิบัติกันทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีดังกล่าวของสหรัฐ ระบุจีนหวังว่าสหรัฐจะปฏิบัติต่อประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมตามข้อเท็จจริง โดยไม่เลือกเข้าข้างประเทศใดประเทศหนึ่ง
ความเคลื่อนไหวของจีนมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเล เนื่องจากมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงนายฮิโรชิ คาจายามะ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายว่าจะปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเล แม้ประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่น เช่น จีนและเกาหลีใต้ รวมทั้งอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นเอง ได้ออกมาคัดค้านเรื่องดังกล่าว
นายซูงะกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่อาจเลื่อนแผนการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจลงสู่ทะเล และรัฐบาลจะออกคำชี้แจงโดยมีเหตุผลสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์ต่อทุกฝ่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะประกาศการตัดสินใจดังกล่าวในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่มีการถกเถียงในเรื่องนี้นานกว่า 7 ปี แต่ก็เลื่อนการตัดสินใจออกไปเพื่อให้มีเวลาสำหรับการหารือมากขึ้น
ทางการญี่ปุ่นระบุว่า การทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เพียงเล็กน้อย และบริษัทโตเกียว อิเลกทริก พาวเวอร์ (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จำเป็นต้องทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล เนื่องจากทางบริษัทขาดแคลนสถานที่ในการกักเก็บน้ำที่ผ่านการบำบัดดังกล่าว
ทั้งนี้ TEPCO ได้กักเก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีมากกว่า 1 ล้านตันจากท่อหล่อเย็นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ นับตั้งแต่ที่ประสบความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2554 และทางบริษัทจะไม่มีสถานที่ในการกักเก็บน้ำบำบัดดังกล่าวภายในปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 64)
Tags: จีน, ญี่ปุ่น, น้ำปนเปื้อน, สารกัมมันตรังสี, โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์