นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศระลอกใหม่ที่ปะทุขึ้นจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงแถวทองหล่อ ถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เร่งตัวขึ้นทำสถิติรายวันสูงสุดใหม่ และกระจายตัวไปในหลายจังหวัดเกือบทั่วประเทศ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวังสถานการณ์นี้ไปจนถึงช่วงหลังสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้มองว่าการระบาดในรอบนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยสาเหตุที่ทำให้ บล.ทิสโก้คาดว่าผลกระทบรอบนี้จะน้อยกว่ารอบที่ผ่านมา คือ
- ระบบสาธารณสุขไทย รวมทั้งประชาชนมีประสบการณ์และได้เรียนรู้จากการระบาดตลอดช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่ายังสามารถรับมือได้ดีทั้งในแง่ของการควบคุมการแพร่ระบาดและการรักษาพยาบาล
- บุคคลากรทางการแพทย์และบุคคลกลุ่มเสี่ยงเริ่มได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว น่าจะลดการสูญเสีย และทำให้ระบบสาธารณสุขไทยยังเดินหน้าต่อไปได้ และ 3. ความรุนแรงของโรคลดลง สังเกตได้จากอัตราการเสียชีวิตของไทยในปัจจุบันอยู่ต่ำเพียง 0.3% เท่านั้น ขณะที่การระบาดใหม่ ๆ ในช่วงต้นปี และในสิ้นปีที่แล้วที่มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2-3% และ 1.4% ตามลำดับ
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า หากอ้างอิงจากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่มีการระบาดภายในประเทศระลอก 2 ดัชนีหุ้นไทยจะผันผวนสูงมากในช่วงวันแรก ๆ ที่เริ่มมีข่าวการแพร่ระบาด หลังจากนั้นจะแกว่งซิกแซกขึ้นลงไปตามสถานการณ์ของจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่เบ็ดเสร็จแล้ว SET Index ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยประมาณ +2% ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ SET Index ก็ยังปรับขึ้นน้อย (Underperform) เมื่อเทียบกับ MSCI World Index และ MSCI Asia ex. Japan Index ที่ในช่วงเวลาเดียวกันปรับตัวขึ้น +9% และ +15% ตามลำดับ
โดยสรุป บล.ทิสโก้มองการปรับตัวลงของ SET Index จากการระบาดรอบนี้ ไม่น่ารุนแรงเหมือนรอบก่อนหน้า โดยมองว่าที่ดัชนีหุ้นไทยในระดับ 1,530-1,550 จุด เป็นจังหวะเหมาะสมที่จะซื้อหุ้นคืน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บล.ทิสโก้ได้แนะนำทยอยแบ่งขายในช่วงที่หุ้นไทยเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด ส่วนโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นนั้นบล.ทิสโก้ไม่คาดว่า SET Index จะฟื้นตัวได้เร็ว และคาดจะแกว่งตัวในทิศทางที่ “Underperform” กว่าหุ้นโลกไปสักพัก จนกว่าจะมีความชัดเจนของสถานการณ์ระบาดช่วงหลังสงกรานต์ จะกระทบต่อแผนการทยอยเปิดประเทศหรือไม่ และเชื่อว่านักลงทุนจะรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกด้วย
สำหรับธีมหุ้นที่เราแนะนำในช่วงตลาดปรับฐานรอบนี้
- หุ้นที่คาดงบไตรมาส 1/2564 จะออกมาดี มีโอกาส “Outperform” ในช่วงตลาดเผชิญการระบาดระลอกใหม่ หุ้นที่แนะนำ คือ AEONTS, BCH, CHG, EASTW, KCE, PTT, PTTGC, SCC, SCGP, STGT และ STA
- หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนีต่างๆ เช่น รายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณในดัชนี MSCI ซึ่งจะประกาศ 11 พฤษภาคม 2564 โดยหุ้นที่เป็นตัวเก็งหลักที่จะเข้าในรอบนี้ คือ SCGP ขณะที่รายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณ SET50 ซึ่งจะประกาศกลางเดือนมิถุนายน 2564 มีหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ คือ IRPC, KCE, STGT และ STA
- หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนีเป็นการใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free Float Adjusted Market Cap.) แนะนำ BBL และ SCC และหากให้เลือกหุ้นที่ชอบมากที่สุดใน 3 ธีมดังกล่าว คือ STGT, SCC และ SCGP
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, ทิสโก้, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล