ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง หลังจีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในบางประเทศ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า รัฐบาลจะต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,798.07 จุด ลดลง 210 จุด หรือ -0.72%
- ส่วนดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,819.66 จุด เพิ่มขึ้น 110.68 จุด หรือ +0.37%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ยังพุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2561 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก.พ. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าดัชนี PPI อาจจะเพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้น ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนยังวิตกกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยล่าสุดนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมสั่งปิดไนท์คลับ, ผับบาร์, คาราโอเกะ และสถานบันเทิงที่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และสร้างความกังวลว่าอาจเกิดการระบาดเป็นระลอกที่ 4
ทางด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 671 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 108,269 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย