นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดมีรายได้ 700 ล้านบาท โดยสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (PMS) ให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ (NGV) สถานีปทุมธานี มีปริมาณการอัดก๊าซปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่
ทั้งนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนในปี 64 ไว้ที่ 450-500 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้ครบ 30 เมกะวัตต์ภายในปี 65 โดยจะเป็นการขยายทั้งในครัวเรือน (Residential) และบริษัท (Enterprise) ส่วนที่เหลือจะใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด (N15)
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 เมกะวัตต์ โดยคาดหวังว่าจะได้โครงการจากโรงไฟฟ้าชุมชนไม่ต่ำกว่า 10-15 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันกำลังเตรียมยื่นเอกสารในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 เม.ย.นี้ และจะทราบรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในวันที่ 15 ก.ค. 64 และจะมีการพัฒนาโครงการไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีกไม่ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์
ขณะที่ช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของกำลังคน มีการใช้มาตรการ Lean Organization ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสำหรับจ่ายค่าชดเชยให้พนักงาน และยังมีค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาเข้าลงทุน N15 ส่งผลให้ผลประกอบการและกำไรในไตรมาส 1/64 อาจจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 64)
Tags: NGV, PMS, SKE, ก๊าซธรรมชาติ, จักรพงส์ สุเมธโชติเมธา, พลังงานแสงอาทิตย์, สถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน, สากล เอนเนอยี, หุ้นไทย, โซลาร์รูฟท็อป, โรงไฟฟ้าชุมชน