นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า ทิศทางกำลังซื้อใน Big C สาขาต่างจังหวัดยังไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ แต่อาจจะมีผลกระทบบ้างในสาขาเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งบริษัทยืนยันว่ายังใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มข้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งแรกที่ทีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยมองว่าสินค้าที่ BJC จำหน่ายอยู่เป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิต จึงเชื่อว่าการจำหน่ายสินค้าต่างๆจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระทบ โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ แต่ในต่างจังหวัดยังไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเราก็ต้องรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหลังสงกรานต์ว่าจะเป็นอย่างไร”นายอัศวิน กล่าว
ส่วนแผนการขยายสาขา Big C ยังยืนยันตามแผนเดิมที่จะใช้งบลงทุนราว 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อที่จะขยายสาขาใหม่ 102 สาขา ซึ่งจะเป็น บิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เก็ต 2 สาขา และมินิบิ๊กซี เพิ่มอีก 100 สาขา รวมทั้งจะปรับเปลี่ยนสาขาเดิม 14 สาขา ไปเป็นบิ๊กซี Food Place 4 สาขา และบิ๊กซี Depot 10 สาขา เป็นร้านค้ารูปแบบใหม่ที่จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม B2B มากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 64)
Tags: Big C, BJC, ค้าปลีก, บิ๊กซี, ศูนย์การค้า, หุ้นไทย, อัศวิน เตชะเจริญวิกุล, เบอร์ลี่ ยุคเกอร์