
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การที่จีนไม่ออกมาแสดงท่าทีชัดเจนต่อสถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเมียนมา อาจทำให้จีนมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียผลประโยชน์ในเมียนมาเอง
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น เนื่องจากจีนไม่เคยออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับการที่กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมาได้สังหารประชาชนไปแล้วหลายร้อยคน นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับชาติตะวันตกซึ่งออกมาประณามอย่างรุนแรงและมีการคว่ำบาตรด้วย
กาเรธ ไพรซ์ นักวิจัยจากสถาบันคลังสมองแห่งหนึ่งของอังกฤษ เปิดเผยว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาจะกระทบผลประโยชน์ของจีนแน่นอน ขณะที่คาโฮ หยู นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงมองว่า ความไม่สงบในเมียนมาจะเป็นปัจจัยคุกคามเสถียรภาพทางการเมืองของมณฑลที่อยู่ติดกับเมียนมาเอง เช่น มณฑลยูนนาน
ทั้งนี้ จีนเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของเมียนมา โดยมีบทบาทสำคัญในโครงการ Belt and Road ของรัฐบาลจีน
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมาได้สังหารประชาชนไปแล้ว 550 คน โดยในจำนวนนั้นเป็นเด็ก 46 คนนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
กองทัพเมียนมาพยายามที่จะสกัดกั้นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารโดยได้สั่งปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและออกหมายจับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารผ่านทางออนไลน์ ขณะที่การชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่นั้นเป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจากถูกปราบปรามโดยกองกำลังรักษาความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญกับการปราบปราม ประชาชนเมียนมาที่ต่อต้านการก่อรัฐประหารก็ยังคงออกมาเดินขบวนประท้วงทุกวันในเมืองต่างๆทั่วประเทศ โดยใช้วิธีจัดการชุมนุมแบบกองโจร ซึ่งเป็นการรวมตัวประท้วงขนาดเล็กและสลายตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่กองกำลังรักษาความมั่นคงจะสามารถตอบโต้ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 64)
Tags: กาเรธ ไพรซ์, จีน, อังกฤษ, เมียนมา