นายเซธ เบิร์กลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนหรือกาวี (GAVI) และหนึ่งในผู้นำของคณะทำงานโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ว่า คาดว่าน่าจะมีการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้เกิน 100 ประเทศแล้วภายในไม่กี่สัปดาห์หน้า จากปัจจุบันที่มีการฉีดวัคซีนแล้วใน 84 ประเทศ
“หากเรามีวัคซีนจำนวนมากกว่านี้ก็จะทำให้สามารถระดมฉีดวัคซีนได้ เป้าหมายสูงสุดของเราคือการสามารถเข้าถึงโรงงานผลิตวัคซีนขนาดใหญ่ได้” นายเบิร์กลีย์กล่าว และยกตัวอย่างว่าหากโรงงานผลิตวัคซีนสามารถตอบสนองความต้องการของสหรัฐได้ภายในช่วงปลายปีนี้ ก็จะเปิดทางให้ใช้โรงงานส่วนดังกล่าวผลิตวัคซีนให้ประเทศอื่นๆ ได้ โดยข้อมูลช่วงต้นเดือนมี.ค.ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สั่งซื้อวัคซีนจำนวนเกือบเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ได้คนละ 2 โดส
แต่ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า มีประเทศอีกกว่า 30 ประเทศที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนหรือยังมีการฉีดวัคซีนน้อยมาก รวมถึงประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกา
“ปัญหาหลักในส่วนนี้คือความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา เราจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อทุกๆ คนปลอดภัย ความจริงข้อนี้ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้นจากการเกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ เพราะถ้าหากยังมีประชากรจำนวนมากที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็จะยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจะแพร่ระบาดไปทั่วโลกต่อไป” นายเบิร์กลีย์กล่าว
นอกจากนี้นายเบิร์กลีย์ยังเปิดเผยว่า โครงการโคแวกซ์ซึ่งเป็นโครงการเพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ได้มีการสั่งซื้อวัคซีนแล้วกว่า 2 พันล้านโดส แต่ส่วนใหญ่จะมีการนำส่งหลังเดือนมิ.ย. โดยนายเบิร์กลีย์แสดงความเห็นว่า สาเหตุที่เกิดความล่าช้าเช่นนี้มาจากการที่ประเทศต่างๆ ทำการกักตุนวัคซีนโดยใช้กระแสชาตินิยมเป็นข้ออ้าง จนส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตนำส่งวัคซีนให้โครงการโคแวกซ์ได้น้อยลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 64)
Tags: COVAX, COVID-19, GAVI, วัคซีนต้านโควิด-19, เซธ เบิร์กลีย์, โควิด-19, โคแวกซ์