นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 4,500-5,000 ล้านบาท จากปี 63 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,196 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากงานก่อสร้างเป็นหลัก บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 63 อยู่ที่ 9,297.21 ล้านบาท คาดว่าในครึ่งปีแรกน่าจะได้งานใหม่เข้าเพิ่ม Backlog เป็น 9,800 -10,000 ล้านบาท จากนั้นน่าจะมีงานใหญ่เข้ามาอีก 2-3 งาน ซึ่งจะทำให้ Backlog สิ้นปี 64 ทะลุ 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรองานประมูลกว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะได้งานราว 3,000-4,000 ล้านบาท โดยในเดือน เม.ย.มีแผนเข้าประมูลงานของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บางจั่น EECi ซึ่งเป็นการติดตั้งเครื่องจักรก่อสร้างดำเนินระบบในส่วน Biorefinery มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท
ส่วนงานท่อส่งก๊าซของ บมจ.ปตท. (PTT) ปีนี้เห็นปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น โดยมีงานไฮไลท์ 2-3 งาน รวมมูลค่าโครงการทั้งหมด 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการละ 1,000 ล้านบาท คืองานท่อเส้นที่ 5 เฟส 3 Extension, งานอินเตอร์คอนเนคติ้ง โรง LNG ของปตท. และงานอินเตอร์คอนเนคติ้ง มาบตาพุด
ด้านงานอินฟราสตรัคเจอร์ งานโยธา มองว่าปีนี้จะมีการประมูลที่ 2,000 ล้านบาท ขณะที่งานอื่นๆ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค จะเข้าประมูลโครงการขายน้ำของการประปาภูมิภาค 1-2 โครงการ รวมมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้ และโครงการที่จะเข้าไปบำบัดน้ำเสียและขายให้ลูกค้า มูลค่าโครงการอีกกว่า 100 ล้านบาท
“บริษัทลูกอย่าง UTILITIES & INVESTMENT พยายามเกาะเมกะเทรนด์ เรื่องอินฟราสตรัคเจอร์ UTILITIES รวมเรื่องไฟเบอร์ออพติก และเรื่องการสื่อสารด้วย ในขณะที่ปีนี้คงได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ EEC และดิจิทัลเทรนด์ ด้าน SMART IoT ECOSYSTEM จะมีการขยายแพลตฟอร์มขนส่งอย่างต่อเนื่อง” นายภาสิต กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานปี 64 มีการเข้มงวดในเรื่องระบบการคอนโทรล และมอนิเตอร์โครงการมากขึ้นจากหลายปัจจัยที่เข้ามา ทั้งนี้บริษัทยังคงได้รับผลกระทบเรื่องแรงงานจากประเทศเมียนมา จึงหันมาใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรเข้ามาทดแทน
นายภาสิต กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังมีโครงการที่มีการดำเนินงานต่อเนื่องจากปีก่อน จำนวน 6 โครงการ คือโครงการท่อส่งน้ำเฟสที่ 1 โดยมีมูลค่าโครงการ 989.78 ล้านบาท คืบหน้ากว่า 91% อยู่ในช่วงเก็บงาน และการทดสอบการทำงานทั้งระบบ, งานระบบท่อน้ำของคลองหลวง มีมูลค่างาน 1,833 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 39%, งานกลีเซอลีน ของบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) มีมูลค่าโครงการ 389.38 ล้านบาท อยู่ในช่วงทดสอบระบบ คืบหน้าแล้ว 96%,
โครงการขยายถนนดอนศรีนนท์ 8 กิโลเมตร คืบหน้า 67% มีมูลค่าโครงการ 559 ล้านบาท, โครงการสร้างสะพานคลองเตย มูลค่าโครงการรวม 1,524 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 41% อยู่ในกระบวนการประกอบชิ้นงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นปี 64 และงานทำสายไฟลงดิน ถนนรัชดาภิเษก-อโศก มูลค่าโครงการ 2,205 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 18%
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 63 บริษัทพบปัญหาจากโครงการคลังสินค้าอัจฉริยะ จึงส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น รวมถึงต้องเลื่อนระยะเวลาออกมาถึงปี 64 นี้ ทั้งนี้กำลังอยู่ในช่วงการเจรจากับทางเจ้าของงานในการแก้ไขปัญหา คาดว่างานจะแล้วเสร็จปลายเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ และจะเห็นความชัดเจนของโครงการในไตรมาส 2-3/64 ซึ่งผลอาจทบกลับมาเป็นกำไรได้
สำหรับผลการดำเนินงานของปี 63 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 3,196.04 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้กำไรสุทธิติดลบที่ 447.11 ล้านบาท ทั้งนี้ทางผู้บริหารกำลังพิจารณาว่าจะสามารถถอดเครื่องหมาย C ได้เมื่อใดและจะมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 64)
Tags: TRC, ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น, ภาสิต ลี้สกุล, หุ้นไทย